นักช้อปเซ็ง ! กรมศุลกากร ติดป้าย ประกาศหิ้วของใช้ส่วนตัว ของฝาก สินค้าแบรนด์เนม
จากต่างประเทศเข้าไทย เกิน 1 หมื่นบาท ต้องเสียภาษี
วันนี้ (1 กรกฎาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิถึงกับออกอาการเซ็ง
เมื่อทางสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ติดป้ายประกาศแจ้งผู้โดยสารและลูกเรือที่เดินทางเข้ามา
ในประเทศว่า สามารถนำของใช้ส่วนตัว (Personal Effect) เข้าประเทศได้ไม่เกินครั้งละ 1 หมื่นบาท !
โดยของส่วนตัวจะต้องไม่เป็นลักษณะทางการค้า เสบียง อาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอาง ไม่ได้รับ
การยกเว้นภาษี ส่วน บุหรี่ ยาสูบ สุรา ไวน์ นำเข้าได้ในจำนวนจำกัด ขณะที่ของฝากญาติ ของบริจาค
ของสะสม ของมือสอง ของฝากเจ้านาย ไม่ถือว่าเป็นของใช้ส่วนตัว หากเป็นกระเป๋า-นาฬิกาแบรนด์เนม
ราคาเกิน 10,000 บาท ต้องชำระภาษี
ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นการป้องกันและปราบปรามกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าพรีออร์เดอร์ ที่ทำธุรกิจหิ้วสินค้า
จากต่างประเทศเข้ามาขายโดยหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งมีความผิดตามที่ทางศุลกากรกำหนดไว้ชัดเจนว่า
ห้ามบุคคลนำของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษีอากรหรือของที่ควบคุมการนำเข้า หรือของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธี
การศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในประเทศ อาจเป็นของที่ต้องเสียภาษีหรือไม่ต้องเสียภาษีก็ได้
หรืออาจเป็นของต้องห้ามหรือของต้องจำกัดหรือไม่ก็ได้ หากไม่นำมาผ่านพิธีการศุลกากร
ก็มีความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากร
โดยกฎหมายศุลกากรได้กำหนดโทษผู้กระทำผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรสำหรับความผิดครั้งหนึ่ง ๆ
ไว้สูงสุดคือ ให้ริบของที่ลักลอบหนีศุลกากรและปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของ รวมค่าภาษีอากร
หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำและปรับ
อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าว ทำให้พ่อค้า แม่ค้า รวมถึงนักช้อปและนักท่องเที่ยว ไม่พอใจนัก
เนื่องจากบางรายก็ต้องการไปเที่ยวเพื่อช้อปปิ้งจับจ่ายซื้อของจริง ๆ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าก็ไม่สามารถ
หิ้วของเข้ามาขายอดได้รายได้ด้วย