สิ่งลี้ลับที่น่าศึกษา วัดเก่าแก่ ที่มีอายุมากกว่า ได้เปิดเผยขึ้นมา วัดแห่งนี้ที่มีอายุมากกว่า 4,000 ปีตั้งอยู่ที่จังหวัดลพบุรี ดินแดนนี้มีสิ่งที่ซ่อนเร้นโบราณสถานเอาไว้มากมายยังไม่มีใครขุดพบแต่เราได้ขุดพบสิ่งที่มีล้ำค่า แต่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ไม่บูรรณะ ถูกนายทุนใจบาป ยึดพื้นที่วัดมาสร้างบ้านเรือนไปกบปิดบังเจดีย์และโบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุ 4,000 ปีถูกทำลายด้วยฝีมือมนุษย์นั่นเอง ความเลวทราม ความระยำของมนุษย์เอาแต่ได้แต่ทำร้ายวัตถุโบราณที่อายุมากกว่า 4,000 ปี ข้าราชการก็ปล่อยทิ้งมองไม่เห็นเอาแต่ได้เช่นกัน
ใครอยากรู้ตาม สำนักข่าวข่าวสืบสวน และศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ พร้อมด้วย นายนันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ได้ลงพื้นที่ตีแผ่ความจริงให้หน่วยงานราชการลงไปปรับปรุงบูรณะขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นแลนด์มาร์คดุลดูดประชาชนพี่สนใจเกี่ยวกับวัตถุโบราณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
วัดแห่งนี้บูรณะขึ้นมาใหม่อาจะสวยงามเหมือนอดีตที่เคยตั้งขึ้นมาอย่างสวยงามเพื่อริมน้ำลพบุรีนั่นเอง
ชื่อวัดนี้สารบบได้ถูกเรือนหายจากความทรงจำลืมหายจากบันทึกว่าวัดนี้มีด้วยหรือ
วัดแห่งนี้ วัดช้างเผือก วัดนี้เป็นวัดร้างที่ปล่อยทิ้งเอาไว้เกือบ 4,000 ไม่มีการบูรณะไม่มีการปรับปรุงพื้นที่อะไรปล่อยทิ้งล้างเอาไปและแล้วไม่มีนายทุนใจบาปรวมหัวกับคนใจบาปรุกที่วัดมาทำบ้านเรือนรุกที่วัดเอาไว้เป็นของตนเองและแล้ววัดนี้ก็กลืนกินไปด้วยวัฒนธรรมที่หายจากประเทศไทยและคนลพบุรีไปอย่างยาวนานและแล้วไม่มีคนไปขุดพบสิ่งเหล่านี้ซ่อนเร้นเอาไว้อยู่กลางป่าต้นไม้ต้นหญ้าคลุมด้วยต้นมะขามใหญ่อายุเกือบ 4,000 ปีสร้างมาพร้อมวัดแห่งนี้เช่นกันได้ยืนต้นตายอยู่ตนเจดีย์เก่าแก่ในนั้นอาจจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัตถุโบราณต่างๆที่บรรจุเอาไว้ในเจดีย์แห่งนี้และเจดีย์แห่งนี้หุบพังไปกลางกาลเวลาเช่นกันมีคนไปทุบมีคนไปพังขุดหาวัตถุโบราณทำให้วัตถุเจดีย์นั้นผุพังไปอย่างเหมือนเสร็จอีกก้อนหนึ่งนั่นเองไม่มีหน่วยงานของรัฐไม่มีหน่วยงานของศิลปากรลงพื้นที่ตรวจสอบแต่มีแต่ประชาชนทุกที่เป็นของตัวเองไปแล้วหลาย 10 ปี
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
ขอนำประวัติวัดแห่งนี้มาตีแผ่ และเผยแพร่ว่าวัดแห่งนี้สมควรที่อนุรักษ์เป็นวัตถุโบราณเอาไว้ให้ลูกหลานได้ชมเชยกันหรือเปล่าตามมาขอนำเล่าคร่าวๆให้ท่านฟัง
วัดช้างเผือก(ร้าง) ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๙ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี
มีเนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่ เป็นวัดร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันหลงเหลือซากโบราณสถานได้แก่ ผนังอาคารเพียงด้านเดียวในฝั่งทิศใต้, ทิศเหนือเป็นสระน้ำโบราณ ซึ่งอยู่คู่กับวัดมาตั้งแต่แรกสร้าง, ทิศตะวันออกมีซากเจดีย์ขนาดเล็กหนึ่งองค์เป็นเจดีย์สมัยอยุธยาตอนกลางซึ่งยังปรากฏลวดลายให้เห็นอยู่ ปัจจุบันพื้นที่โดยรอบมีผู้เช่าพื้นที่ของวัดอยู่
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์5 เหล่าทัพ พร้อมด้วย สำนักข่าวข่าวสืบสวน
เคยสำรวจวัดนี้ไว้ เมื่อปลายปี 2561 บริเวณโดยรอบยังคงมีวัชพืชขึ้นปกคลุม และ
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ ได้เข้าสำรวจอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อนเห็นความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีการนำแท่งปูนมาทิ้งไว้บริเวณสระน้ำโบราณของวัด ซึ่งทางเราได้รับข้อมูลมาบ้างส่วนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า จะมีการกลบสระน้ำของวัดนี้ ในส่วนของทางชาวบ้านได้มีการแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนดำเนินการของหน่วยงานที่รับผิดชอบครับ
แต่ปัจจุบัน
เมื่อปี 2565
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์5 เหล่าทัพ ได้กลับไปอีกครั้งหนึ่ง น้ำตาจะไหล มันเศร้าใจ เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันผุพังพังทลายไม่มีชิ้นดี ไม่มีหน่วยงานไหนลงพื้นที่มาตรวจสอบและมาปรับปรุงบูรณะขึ้นมาใหม่อีกเลยปล่อยทิ้งเอาไว้
พื้นที่วัดช้างเผือก..วัดร้างวัดเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา กลางหมู่บ้าน ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองลพบุรี วัดในพื้นที่การดูแลของกรมการศาสนา ที่กำลังจะสาบสูญ
วันนี้ยังมีร่องรอย และเรื่องราวให้เรียนรู้และค้นหาแม้สภาพพื้นที่จะปรับเปลี่ยนไปมากแล้ว กลางพื้นที่มีต้นมะขามใหญ่ไร้ลำต้น(มีแต่เปลือก) อายุเกือบ4,000 ปี
ที่ยืนต้นมีชีวิตงดงามเป็นUnseen
จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมการศาสนา สำนักศิลปากรที่ 4 ชมรมอนุรักษ์ฯและผู้เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป
ชาวบ้านที่อยู่รอบๆวัดร้างบอกว่า ปกติไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง ในอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อนคงเป็นวัดใหญ่ มีคนเคยนิมิตเห็นว่า มีนักรบอยู่ทั่วบริเวณ…เป็นตำนาน อาจเป็นที่พักทัพ…
เป็นวัดร้าง วัดเก่าริมแม่น้ำลพบุรีอีกแห่งหนึ่ง
วัดช้างเผือก ลพบุรี ที่ถูกปล่อยปะละเลยจนมองไม่เห็นถึงความสำคัญในอดีต แม้จะไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าใครสร้าง …แต่มันก็มีความสำคัญอย่างมาก เพียงอิฐหนึ่งก้อนนั้นก็ คือ ของสงฆ์แล้ว
…เราไม่รู้หรอกคนในอดีตจะอธิฐานอะไรไว้ในการสร้างวัดบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็เพื่อสืบต่อพระศาสนาเพื่อให้ดำรงค์ไว้จนถึงลูกหลาน
จริงๆ หน้าที่ ก็เป็นเรื่อง ของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ต้อง มาดูแล แต่ สิ่งที่สำคัญ มากกว่า รอหน่วยงานมาเคลียร์ คือ การสร้าง จิตสำนึก ของคนในชุมชน การให้ความสำคัญ ความรู้ แก่ เยาวชน ไปจนถึง พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ชาวบ้าน คนถ้า มองไม่สำคัญ ไม่มีคุณค่า เขาก็ทำลาย
ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลองตรวจสอบอย่างเร่งด่วนได้มีผู้ยิ่งใหญ่มาจากไหนก็ไม่รู้รับรอบไปขุดดินบริเวณ วัดช้างเผือก เอาประโยชน์ใส่ตนเองและข่มขู่ชาวบ้าน และเข้าไปทำลายวัตถุโบราณสถานอย่างเมามันใครกล้าคัดค้านถูกข่มขู่ ชาวบ้านทำให้ชาวบ้านกลัวไปตามตามกัน
ไม่กลัวบุญบาปขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบจากเร่งด่วนอย่าปล่อยทิ้งเอาไว้จะไม่มีวัตถุโบราณให้ลูกหลานได้ดูกัน
ความคืบหน้า ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จะนำเสนอต่อไป จัดเกาะติดประเด็นนี้ไม่ยอมปล่อย
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ