นักโทษเข้าเกณฑ์อภัยโทษปล่อยทันที30,000คน คาดอีก3วันปล่อยล็อตแรก “ชูวิทย์”เข้าเกณฑ์ปล่อยตัว ส่วน”ผู้พันตึ๋ง”อดถูกปรับเป็นนักโทษชั้นเลว
โดยแต่ละเรือนจำจะมีคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อให้ผู้ต้องโทษที่ได้รับการปล่อยตัวมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ คือ ต้องเป็นผู้ต้องโทษชั้นดีขึ้นไป จึงได้รับสิทธิ์และไม่เป็นผู้ที่กระทำผิดซ้ำไม่ใช่ผู้ต้องโทษคดีฆ่าข่มขืนฉ้อโกงประชาชนหรือค้ายาเสพติดในส่วนของเรือนจำในต่างจังหวัดจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษา และอัยการร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติผู้ต้องขังด้วยโดยหลังตรวจสอบคุณสมบัติแล้วเรือนจำจะส่งรายชื่อผู้ต้องโทษให้ศาลจังหวัดทำหมายปล่อยและดำเนินการปล่อยตัวเป็นอิสระสำหรับมาตรการดูแลผู้พ้นโทษ ซึ่งถือเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วนั้นจะมีหน่วยงานภาคีในพื้นที่คอยสอดส่องดูแลไม่ให้กระทำความผิดซ้ำโดยคาดว่าจะสามารถปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับการอภัยโทษล็อตแรกได้ภายใน3วันซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องโทษน้อยไม่เกิน2ปี
อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวต่อว่าสำหรับผู้กระทำผิดคดี112ก็เข้าข่ายได้รับประโยชน์จากพ.ร.ฎ.อภัยโทษครั้งนี้ด้วยโดยจัดเป็นผู้ต้องขังคดีทั่วไปที่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษตามลำดับชั้นสำหรับกลุ่มที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์อภัยโทษปล่อยตัวรอบนี้เช่นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ และผู้ต้องขังคดีรื้อบาร์เบียร์ที่ต้องโทษจำคุกคนละ2ปี ส่วนนายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง ผู้ต้องโทษคดีฆาตกรรมนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ที่ได้รับการลดวันต้องโทษและพักการโทษไปก่อนหน้านี้แต่กระทำความผิดซ้ำจนถูกนำตัวเข้าคุมขังตามกำหนดโทษที่ได้รับการพักไว้ในเรือนจำกลางบางขวางโดยผู้พันตึ๋งรอบนี้ไม่เข้าข่ายได้รับการอภัยโทษเพราะถูกลดชั้นปรับเป็นนักโทษชั้นเลว