เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น นำรูปถ่ายของภาพชื่อ “ทรงพระเมตตาต่อไพร่ฟ้าผู้ทุกข์ยาก” ภาพมีความยาว 178 เซนติเมตร และกว้าง 148 เซนติเมตร วาดขึ้นเมื่อปี 2542 เพื่อนำไปติดตั้งตามศาลากลางจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยอาจารย์เฉลิมชัยชี้ให้เห็นว่าภาพได้รับความเสียหายทั้งตัวกรอบ เนื้อภาพที่เป็นผ้าใบวาดด้วยสีอะคริลิค แต่มีรอยด่างด้วยน้ำ มูลสัตว์ และมีรอยฉีกรวมกันไม่ต่ำกว่า 10 จุด โดยเป็นรอยฉีกที่เห็นได้ชัดเจน 2-3 จุด และรอยมูลสัตว์และน้ำประมาณ 6-7 จุด โดยภาพดังกล่าวถูกนำไปติดตั้งบนผนังหน้าห้องศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.แพร่
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่ภาพวาดดังกล่าวมีสภาพเป็นเช่นนี้ เพราะหน่วยงานราชการไทยน่าจะดูแลรักษาสมบัติชาติได้ดีกว่านี้ และยังเป็นภาพที่ตนมีความตั้งใจวาดมากที่สุดและรักมากที่สุดอีกด้วย เพราะเป็นภาพที่วาดขึ้นหลังจากถวายงานในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยการวาดภาพหนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก
ก่อนจะสร้างศิลปะที่วัดร่องขุ่นได้ 2 ปี รัฐบาลในยุคที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็น รมว.กระทรวงมหาดไทย มีโครงการให้ศิลปินวาดภาพในหลวง เนื่องในวโรกาสทรงมีพระชนมายุ ครบ 72 พรรษา แล้วนำไปไว้ที่ศาลากลางจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เมื่อศิลปินแต่ละคนวาดภาพแล้ว ส่วนใหญ่ถูกนำไปไว้ตามจังหวัดของตน โดยผลงานของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ชาวจ.เชียงราย ผู้สร้างบ้านดำถูกนำไปไว้ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า สำหรับของตนวาดเสร็จเมื่อเดือนก.ค.2542 เป็นภาพพระบรมฉาลักษณ์ ที่แสดงว่าทรงเป็นเทพที่มีกายทิพย์ลงมาช่วยเหลือประชาชนที่ตกน้ำ ซึ่งแสดงถึงความทุกข์ยากโดยมีปลาที่เข้ามาซ้ำเติมความยากลำบาก มีดอกบัวตรงกลางซึ่งแสดงถึงทรงมีทศพิธรรมราชธรรม มีกระต่ายที่เป็นปีพระราชสมภพ มีดอกมณฑลที่โปรยสู่ปวงประชาชน แสดงถึงการช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่น เขื่อน น้ำ การเกษตร ฯลฯภาพนี้เมื่อแล้วเสร็จถูกนำไปไว้ที่ จ.แพร่ เพราะถือว่าเป็นคนภาคเหนือเหมือนกัน โดยวันที่ไปดูครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดยุคนั้นนำไปไว้ในห้องโถงที่มีความสง่างามโรยด้วยดอกไม้ แต่ปรากฎว่าเมื่อราว 1 สัปดาห์ก่อน ตนได้รวบรวมภาพวาดเพื่อนำไปเก็บไว้ที่หอศิลป์ภายในวัดร่องุข่น สำหรับที่ จ.แพร่ ให้ลูกศิษย์ไปถ่ายภาพวาดใบนี้มาเก็บไว้ด้วย เพราะถือว่าได้มอบให้เป็นสมบัติชาติแล้ว เราจะเก็บมาเฉพาะภาพถ่ายเท่านั้น“สภาพดังกล่าวทำให้รู้สึกเสียใจและผิดหวังในหน่วยงานที่ดูแลอย่างมาก เพราะภาพวาดนี้ไม่รู้ว่าผ่านมาแล้วกี่ผู้ว่าราชการ จ.แพร่ เมื่อผ่านมาได้ 17 ปี กลับอยู่ในสภาพนี้ ซึ่งถือว่าไม่รู้ถึงคุณค่าของศิลปะ จึงขอให้มีการดูแลรักษาด้วย หากว่าไม่สามาถทำได้ ก็ขอให้มอบให้ทางหน่วยงานกระทรวงวัฒนธรรม ศิลปินที่มีหอศิลป์หรือภาคเอกชน ที่มีสถานที่เก็บรักษาก็ได้ ภาพจะได้ไม่เสียหายและให้อยู่ในที่ที่สมพระเกียรติด้วย ส่วนความเสียหายของภาพนี้หากต้องทำคงต้องใช้เวลาซ่อมไม่น้อยกว่า 3 เดือนแน่นอน ขณะเดียวกันขอเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ช่วยตรวจสอบภาพวาดของศิลปินที่นำไปติดตั้งตามศาลากลางจังหวัดทุกแห่งด้วย ว่ามีสภาพเหมือนเดียวกันหรือไม่ หากว่าไม่สามารถดูแลให้ได้ ก็ควรจะดำเนินการในลักษณะเดียวกันด้วย เพราะคงไว้ซึ่งคุณค่า” อาจารย์เฉลิมชัย กล่าว