ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนทันที ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวเน็ตไอดอลชื่อดังได้ตระเวนก่อเหตุหลอกลงทุนทองคำโดยการชักชวนเหล่าผู้เสียหายทาง Facebook ซึ่งมีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมากทั่วประเทศไทย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบเน็ตไอดอลชื่อดังรายนี้ มีประวัติก่อคดีร่วมกันมาหลายคดี และในปัจจุบันผู้ต้องหามีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน โดยล่าสุด กก.6 บก.ป.บช.ก. ได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับเน็ตไอดอลรายนี้และได้ประกาศสืบจับไปทั่วประเทศแล้ว
วันที่ 2 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 22.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2/รอง หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5,พ.ต.ท.นรามินทร์ เทพจักรินทร์,ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ,ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น,ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 สืบสวนติดตามจับกุมตัว
น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 36/21 ซ.4 (นิพัทธ์สงเคราะห์1) ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2694/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค.65 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ หน้าห้องพักเลขที่ 174/17 The Tree interchange Condo ถนนประชาราษฏร์ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ จังหวัดกรุงเทพฯ
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องมาจากเมื่อปี พ.ศ.2561 น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ กับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยการตระเวนโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ FACEBOOK ชักชวนประชาชนทั่วไป มาร่วมลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง โดยมีการกล่าวอ้างว่ามีทองคำแท่งที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด แล้วมีการขายเอากำไรเป็นทอดๆ ซึ่งช่วงแรกได้กำไรจากเงินส่วนต่างจริง หลังจากนั้นเมื่อเหล่าผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ ใช้อุบายหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายระดมเงินมาลงทุนก้อนใหญ่ ซึ่งจากนั้นก็ไม่ได้รับทองคำหรือกำไรตามที่แจ้ง ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายได้รับความเสียหายทั่วประเทศ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายแห่ง โดยในปัจจุบัน น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ ได้กลายมาเป็น “เน็ตไอดอลชื่อดัง” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” และได้ประกาศสืบจับไปทั่วประเทศ ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้จับกุมตัวตามหมายจับ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม น.ส.วรัญรภัสส์ หรือมายด์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ยอมรับว่าปัจจุบันตนเองทำงานเป็นโมเดลลิ่ง และเป็นบุคคลมีเชื่อเสียงในโลกโซเชียล โดยในตอนเกิดเหตุช่วงปี 2561 นั้นตนเองก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน โดยตนเองมีหน้าที่ชักชวนให้เหล่าผู้เสียหายมาลงทุน และยังมีหน้าที่รับเงินจากเหล่าผู้เสียหายก่อนจะโอนไปให้กับ “หัวหน้าขบวนการ” โดยตนเองจะหักกำไรไว้บางส่วน จึงทำให้ตนเองถูกดำเนินคดี โดยตลอด 4 ปี ที่ผ่านมามีการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาและขึ้นศาลหลายแห่ง ส่วนหัวหน้าขบวนการนั้นได้ถูกจับกุมไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการชดใช้เงินให้กับเหล่าผู้เสียหายยอมติดคุก”
ภายหลังจากที่ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. แล้วจะมีการสอบสวนขยายผลต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน