เมื่อวันที่ 14 พ.ย.65 ที่จังหวัดสมุทรสาคร : นายรัชต์สพล ศิลาสุวรรณ “ทายาท ตระกูลดัง” ใน ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า คนรับใช้ฮุบมรดกของตระกูล “ศิลาสุวรรณ” กว่า 500 ล้านบาท
นายรัชต์สพล ศิลาสุวรรณ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานคุณป้าวีณา ศิลาสุวรรณ เปิดเผยว่า คุณป้าวีณาฯ ได้รับนางหนู (นามสมมุติ) ซึ่งพ่อแม่มีฐานะยากจนไม่สามารถเลี้ยงดูได้ จึงนำมาฝากให้เป็นเด็กรับใช้ในบ้านคุณป้าวีณาฯ โดยได้อาศัยอยู่กับคุณป้าวีณาฯ และเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา นางหนู (นามสมมุติ) ได้พาคุณป้าวีณาฯ ไปที่สำนักงานทะเบียน สมุทรสาคร เพื่อดำเนินการจดทะเบียนรับนางหนู (นามสมมุติ) เป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งขณะนั้นคุณป้าวีณาฯ มีอายุ 85 ปี แก่ชรามากแล้ว มีอาการหลงๆ ลืมๆ พูดจาวกวน รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง นอกจากนี้ คุณป้าวีณาฯ ยังมีอาการเพ้อ สับสน จนเมื่อปี 2564 คุณป้าวีณาฯ ได้เสียชีวิต
จนกระทั่งวันที่ 13 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ทางญาติพี่น้องได้เข้าไปในบ้านเพื่อทำการเคารพศพคุณป้าวีณาฯ และได้เรียกสามีของนางหนู (นามสมมุติ) มาสอบถามเรื่องพินัยกรรม สามีของนางหนู (นามสมมุติ) ยืนยันว่ามีพินัยกรรม และบอกว่าคุณป้าวีณาฯ สั่งไว้ว่าให้เก็บศพไว้ 3 ปี แล้วค่อยเปิดพินัยกรรม แต่สามีของนางหนู (นามสมมุติ) บอกว่า 3 ปีนานไป จะทำการเปิดพินัยกรรม หลังจากที่คุณป้าวีณาฯ เสียชีวิตประมาณ 1 ปี โดยจะทำการเปิดพินัยกรรมหลังจากฌาปนกิจศพคุณป้าวีณาฯ เรียบร้อยแล้ว และสามีของนางหนูยังบอกอีกว่าหากต้องการทราบข้อมูลเรื่องพินัยกรรม เพิ่มเติมให้สอบถามกับทนายความเอง และให้เบอร์โทรศัพท์มาด้วย ทางญาติจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังทนายความ ทางทนายความแจ้งว่า คุณป้าวีณาฯ ได้ทำพินัยกรรมไว้ทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ไม่เคยลงลายมือชื่อไว้ จึงถือว่าไม่มีการทำพินัยกรรม แล้วนางหนูฯ มาเป็นบุตรบุญธรรมพร้อมทั้งจัดการเรื่องมรดกได้อย่างไร
จากเหตุการณ์นี้ ทางนายรัชต์สพลฯ และญาติๆ ได้ดำเนินการขอเลื่อนพระราชทานเพลิงศพคุณป้าวีณาฯ ออกไปก่อน และได้ทำการปรึกษาข้อกฏหมายกับทางทนายความแล้ว จนกระทั่งทนายความได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง โดยมี นางวันดี อาศรัยผล,นายรัชต์สพล ศิลาสุวรรณ,พลเรือโท ไพบูลย์ ศิลาสุวรรณ และนายพูนศักดิ ศิลาสุวรรณ เป็นโจทย์ ฟ้องนางหนู (นามสมมุติ) จำเลย ในการบอกล้างนิติกรรม (การรับบุตรบุญธรรม) ด้วยการยื่นพยานหลักฐานการตรวจสภาพจิตจากสถาบันกัลยาราชนครินทร์ เนื่องจากผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามกฎกระทรวงฯ
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนสืบพยานในคดีระหว่างโจทย์และจำเลย แต่จำเลยไม่ได้มาศาลส่งทนายจำเลยมา ซึ่งจากการนัดไต่สวนคดีวินิจฉัยคดี ได้มีข้อโต้แย้งกันเรื่องเขตอำนาจศาล ทางศาลชั้นต้นจึงส่งไปให้ประธานศาลอุทธรณ์แผนกคดีชำนาญพิเศษมีคำวินิจฉัยต่อไป และศาลนัดฟังคำวินิจฉัยใน วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น.
นายรัชต์สพลฯ กล่าวต่อว่า ตนและญาติๆ พร้อมจะสู้คดีในชั้นศาลให้ถึงที่สุด เพื่อเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน