ผู้สื่อข่าวรายงาน เรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อผู้เป็นแม่ วอนสื่อช่วยติดตามหาลูกสาว ซึ่งออกจากบ้านไปทำงานต่างจังหวัด ก่อนหายตัวปริศนา ติดต่อไม่ได้อีกเลย นานกว่า 6 ปีแล้ว ทั้งคิดถึง ทั้งเป็นห่วงลูก จนเก็บไปนอนฝัน แม่ก็สุขภาพไม่ดี เจ็บป่วยกระเซาะกระแซะ อยากเจอหน้าลูกสักครั้ง
ต่อมา ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ยังสร้างไม่เสร็จ มีเพียงสังกะสีกั้นห้อง พบกับ นางสมมิตร ปลีปลั่ง อายุ 53 ปี อยู่บ้านที่ 44 หมู่ 5 ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ได้เปิดเผยว่า ตนเองมีลูก 2 คน คนเล็กเป็นผู้ชาย ชื่อ นายอนุสรณ์ จันทร์ดี อายุ 23 ปี ขณะนี้ประสบอุบัติเหตุ นอนอยู่โรงพยาบาลวังโป่ง นานนับเดือนแล้ว อีกคนเป็นผู้หญิง ชื่อ น.ส.วราพร พาสมัย หรือ จุ๋ม อายุ 30 ปี ซึ่งหายตัวปริศนา ติดต่อไม่ได้นานกว่า 6 ปีแล้ว หลังจากเดินทางไปทำงานร้านอาหาร ที่พัทยา กับ น.ส.วิไล พรมเมือง อายุ 40 ปี อาศัยอยู่เลขที่ 99/7 หมู่ 5 ตำบลซับเปิบ อำเภอวังโป่ง ซึ่ง เป็นญาติกัน เมื่อ 6 ปีก่อน แต่ น.ส.วิไล ทำงานอยู่ด้วยเพียง 6-7 เดือน ก็กลับมาก่อน โดยอยู่บ้านได้ราว 4-5 เดือน ก็ย้อนกลับไปที่ทำงานเดิม แต่กลับไม่เจอ และ ติดต่อไม่ได้ โดยไม่ทราบว่าไปไหน ไปกับใคร ตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีใครติดต่อได้อีกเลย
นางสมมิตร ปลีปลั่ง อายุ 53 ปี กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนเองคิดถึงและเป็นห่วงลูกมาก เฝ้ามองทางอยู่เสมอ ว่าลูกจะกลับมาหา ประกอบกับสงสารหลานสาว วัย 8 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของ น.ส.วราพร พาสมัย ที่คอยถามยายเสมอ ว่าเมื่อไรแม่จะกลับมา จึงอยากวอนสื่อ ช่วยติดตามหาลูกสาว ที่หายปริศนาไปนานกว่า 6 ปี ให้ติดต่อกลับมาหาแม่บ้าง เพราะตอนนี้แม่ทั้งเจ็บป่วย ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถทำงานรับจ้าง หาเงินเลี้ยงชีพและดูแลหลานได้ มีเพียง นายมนัส พรมเมือง อายุ55ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 5 ตำบลซับเปิบอำเภอวังโป่งจังหวัดเพชรบูรณ์ มีศักดิ์เป็นลุงของผู้หาย และญาติ ที่คอยให้ความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว ทั้งพาเดินทางไปหาหมอตามนัด และนำของกินมาให้บ้าง
สอบถาม นางสมมิตร ปลีปลั่ง อายุ53 ปี เล่าว่า หากใครพบเห็นลูก ก็ฝากบอกน้องจุ๋ม ให้มาหาแม่บ้าง เป็นห่วงมาก นอนหลับก็ฝันเห็นแต่ลูก เวลารถผ่านก็คิดว่าลูกกลับมาหา ซึ่งลูกหายไปนานหลายปีแล้ว ตอนนี้แม่ก็ไม่สบาย เจ็บป่วย ไม่แข็งแรง ส่วนตัวคิดว่า ลูกยังมีชีวิตอยู่ อยากให้กลับมาหาแม่ มาหาลูกเขาบ้าง ซึ่งลูกสาวแท้ๆของเขา ก็ถามตนว่า ยายเมื่อไรแม่จะมาหาหนูสักที แม่ไม่รักหนูกับยายเลย ทิ้งเราไว้แค่ 2 คน ก็ได้แต่ปลอบใจหลาน พูดทีไรหลานก็ร้องไห้ บอกแต่ว่าแม่ไปทำงาน เดี๋ยวก็มา ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่รู้เลยว่า ลูกทำงานอยู่ไหน ทำได้แต่เฝ้ารอ เทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ หลานก็ถามหาตลอด
ขณะที่ น.ส.วิใล พรมเมือง อายุ 40 ปี ญาติที่เคยไปทำงานด้วยกัน เล่าว่า ไปทำงานด้วยกันตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 ไปทำงานด้วยกันที่พัทยา อยู่ร้านอาหารได้นานราว 6-7 เดือน แล้วตนก็กลับมาอยู่บ้าน ได้ 4-5 เดือน ก็ย้อนกลับไปดูที่ทำงานเดิม ก็ไม่เจอ ติดต่อก็ไม่ได้ โดยไม่ทราบว่าไปไหน ไปกับใคร เพราะตอนไป ก็ไปกัน 2 คน พอย้อนกลับไปอีกทีก็ไม่เจอแล้ว
ด้าน นายมนัส พรมเมือง อายุ55ปี ลุง เผยว่า อยากให้หลานกลับมาดูแลแม่ เพราะแม่ไม่ค่อยแข็งแรง เป็นโรคหืดหอบ ตนต้องได้พาไปหาหมอตามนัดทุกเดือน อยากให้กลับมาบ้าน ให้ติดต่อกลับมาบ้าง เพราะเวลาหมอนัด ก็มีเพียงตนและญาติพาไปหาหมอ ตอนนี้ทุกคนเป็นห่วง ติดต่อไม่ได้เลย นานหลายปีแล้ว ราว 5-6 ปี ตั้งแต่ออกจากบ้านไป ส่วนช่องทางโซเชียล แต่ก่อนเคยเล่น แต่ 5-6 ปี ติดต่อไม่ได้อีกเลย หากถ้าใครพบเห็นช่วยติดต่อมาเบอร์นี้ 0934275792 ลุงมนัส
เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว