วันที่ 27 ต.ค.65 เวลา 10.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี : พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.อาภากรโกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม.,พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ชย พาหะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ จำนวน 4 คดี ดังนี้
คดีที่ 1.รวบหนุ่มแดนมังกรหนีคดี ทวงหนี้ผิดกฎหมาย เสียหายร่วม 100 ล้านบาท : เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม.จับกุมนายหลี่ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน โดยประกอบกิจการทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท นำส่ง กก.3 บก.สส.สตม. ดำเนินการตามกฎหมาย โดยผู้ต้องหารายนี้หลบหนีมาประเทศไทยและซื้อคอนโดอยู่ในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี และใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยซื้อทรัพย์จำนวนมากจากเงินที่หลอกลวงมาได้ เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. จึงได้ขออนุมัติหมายค้นและเข้าจับกุมได้ภายในห้องพักของคอนโดดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ ถือว่าเป็นผู้ต้องหาคดีทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศจีน ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน ต้องการตัวเพื่อส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนเป็นอย่างมาก
คดีที่ 2.รวบหนุ่มแดนมังกรหนีคดีผลิต/จำหน่ายอาวุธปืน ซุกไทย : เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จับกุม นายไฉ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในความผิดฐาน ผลิต จำหน่าย ขนส่งและครอบครองอาวุธปืนกับกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามที่สำนักงานกงสุล (ฝ่ายตำรวจ) ณ นครคุนหมิง ได้มีหนังสือแจ้งมายังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขณะจับกุมผู้ต้องหารายนี้ไม่มีหนังสือเดินทางและได้ลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จำวันเดือนปีและช่องทางที่เดินทางเข้ามาไม่ได้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. ผลการตรวจสอบไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 3.รวบหัวหน้าแก๊งจีนค้ามนุษย์หลอกคนไทยบังคับทำ Call Center ที่กัมพูชา : เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม. จับกุมนายต้าลี่ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติจีน บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ จ.507/2565 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานฯ” โดยคดีนี้เกิดจากการสอบปากคำขยายผลผู้เสียหายคนไทยที่ทำงานคอลเซ็นเตอร์แล้วถูกส่งตัวกลับจากประเทศกัมพูชา ได้ให้การว่ามีคนจีนเป็นคนชักชวนและหลอกลวงพวกตนไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์และมีผู้ต้องหารายนี้เป็นคนสั่งการให้จัดหาและหลอกลวงคนไทยเพื่อนำพาตัวไปทำงานที่ประเทศกัมพูชาและบังคับข่มขู่ให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา และชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ชลบุรี นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4.รวบโจ๋ไต้หวัน หลบหนีเข้าเมือง พบประวัติหนีคดีฆ่า อ้างถูกหลอกมาทำโรแมนซ์สแกมในกัมพูชา : เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายเฉิน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สัญชาติไต้หวัน โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เนื่องจากไม่มีหนังสือเดินทางแสดง และเมื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. ผลการตรวจสอบไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าตนเองได้ถูกเพื่อนชาวไต้หวันชักชวนให้ไปทำ Romancs scam ในประเทศกัมพูชา โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 3 เดือน แต่หาลูกค้าไม่ได้ ทางนายจ้างจึงจะขายตนเองให้กับนายจ้างอื่น ตนเองเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงได้หลบหนีนายจ้างและลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติไม่ทราบว่าในพื้นที่จังหวัดใด เมื่อวันที่ 29 ก.ค.65 เพื่อต้องการจะเดินทางต่อไปยังประเทศเมียนมา และจากการตรวจสอบกับหัวหน้าแผนกประสานงานอาชญากรรม ประจำประเทศไทย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวัน แจ้งว่า นายเฉิน เป็นผู้ต้องหาที่ทางการไต้หวันต้องการตัวโดยในช่วงกลางปี พ.ศ.2564 ได้ร่วมกับพวกรวม 15 คน รุมทำร้ายผู้เสียหายเพื่อนร่วมชาติ โดยนายเฉินใช้ไม้ตีผู้เสียหายจนถึงแก่ความตาย ทางการไต้หวันจึงได้ออกหมายจับในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.พันธนะฯ รอง ผบช.สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน