สืบเนื่องมาจาก น.ส.ณฐพร เจริญพชรกุล และพี่สาว ได้รับเป็นนายหน้า จาก น.ส.สุภ (นามสมมุติ) ในฐานะผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธิ์ ในการขายเช็คค้ำประกันงานก่อสร้างหรือตั๋วอาวัลจำนวน 2 ใบ ใบละ 100 ล้านบาท รวม 200 ล้าน และได้ทำสัญญาให้ค่าตอบแทนใบละ 5 เปอร์เซ็นต์ และได้ทำหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 เธอได้ขายตั๋วอาวัลสำเร็จไป 2 ใบ และทำสัญญาซื้อขายเสร็จเรียบร้อย เธอและพี่สาวก็ต้องได้รับค่าตอบแทน 10 ล้านบาท โดย น.ส.สุภ (นามสมมุติ) ได้จ่ายเช็คธนาคารล่วงหน้า ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 จำนวน 10 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 27 มิถุนายน 2565 เธอได้นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินกับธนาคาร แต่ทางธนาคารบอกว่า เงินสดไม่พอจ่าย จ่ายได้แค่ 2 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะโอนให้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อไปที่บริษัทผู้รับเหมา แต่สุดท้ายถูกระงับการจ่ายเงินทั้งหมด 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เธอก็ได้เจอ น.ส.สุภ (นามสมมุติ) ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.สุภ (นามสมมุติ) ได้ขอดูเช็คที่ให้เธอเป็นค่าดำเนินการก่อนหน้านี้ 200,000 บาท เธอจึงได้เอาเช็คดังกล่าวให้กับ น.ส.สุภ (นามสมมุติ)
แต่ปรากฎว่าเมื่อ น.ส.สุภ (นามสมมุติ) ได้รับเช็คไปแล้ว กลับไม่ยอมคืนเช็คให้กับตน และบอกว่าไม่จ่ายค่าจ้าง เพราะเธอทำงานไม่สำเร็จ แต่เมื่อเธอพยายามทวงถาม เธอและพี่สาวก็ถูกขู่กลับว่า “ระวังลูกจะไม่มีพ่อแม่เลี้ยงถ้ามาขึ้นเงิน” เธอจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาฉ้อโกงต่อพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.ต.เทพพิทักษ์ สินสืบภูมี สว. (สอบสวน) สน.ดอนเมือง เป็นผู้รับแจ้ง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำอีกที ส่วนสำนวนจะเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกงหรือไม่ต้องดูอีกที
น.ส.ณฐพร เจริญพชรกุล ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตามความเป็นจริงตนทำงานจบแล้ว เขามีเจตนาที่จะไม่จ่ายเงิน สามารถตรวจสอบกับทางธนาคารได้ในเรื่องการสั่งจ่ายเช็ค เพราะตนเอาเช็คไปเข้าแล้วหนึ่งครั้ง ในระบบมันขึ้นว่าสามารถสั่งจ่ายด้วยเงินสด ตนก็ยังไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ จากเจ้าของเช็ค ตนไม่ได้รับเงินจากการทำงานตรงนี้เลยแม้แต่บาทเดียว แล้วยังมีการเอาเงินส่วนตัวของตนไปด้วย ซึ่งตนต้องมารับภาระชำระหนี้จากเพื่อนเอง รวมถึงดอกเบี้ยอีกจำนวนมาก มีผู้เสียหายค่อนข้างเยอะ ในส่วนที่ทำงานกับตน ในส่วนของพี่สาว เขาก็ลำบากมากหลังจากที่เจอเรื่องนี้ เขาค่อนข้างจะไม่ไหวแล้ว
วันนี้จึงได้เข้ามาร้องสื่อและขอความเป็นธรรม” น.ส.ณฐพรฯ ได้กล่าวทิ้งท้าย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน