วันที่ 28 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างการเปิดเผยขององค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย ระบุว่ากองกำลังกบฏซีเรียได้สูญเสียพื้นที่มั่นสำคัญส่วนใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองอเลปโปให้กับกองกำลังรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด โดยล่าสุดวันเดียวกันนี้ กองกำลังรัฐบาลสามารถยึดเขตซาคูร์, เฮดารียา และเชคคอดร์ มาจากกลุ่มกบฏไว้ได้
ก่อนหน้านั้นองค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียเปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ (27 พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นวันที่ 13 แล้วที่กองกำลังรัฐบาลซีเรียลงมือโจมตีเพื่อยึดคืนพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองอเลปโปมาจากกลุ่มกบฏ โดยกองกำลังรัฐบาลยึดเขตมาซาเคน ฮานาโน เขตใหญ่สุดทางตะวันออกของเมืองกลับคืนมาได้ นอกเหนือจากเขตจาบาล บาดรา, บาดีอีน, อินซารัต, อัล-ซาคัน อัล-ชาบี และเอน อัล-ทอล ท่ามกลางการอพยพหนีภัยสู้รบของพลเรือนชาวซีเรียราว 10,000 คน หลังกองกำลังรัฐบาลถล่มโจมตีพื้นที่ดังกล่าวอย่างหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
องค์กรสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า ประชาชนเกือบ 10,000 คน พากันอพยพออกมาจากพื้นที่ทางตะวันออก ในจำนวนนี้อย่างน้อย 6,000 คน หนีเข้าไปหลบยังเขตเชคมัคซูด ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของชาวเคิร์ด ที่เหลืออพยพเข้ามาหลบในพื้นที่ควบคุมของกองกำลังรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการอพยพออกจากพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองอเลปโป ฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏซีเรียเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2555 และการโจมตีของกำลังรัฐบาลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 18 ราย ขณะที่การยิงจรวดโจมตีของกลุ่มกบฏซีเรียเข้าไปยังพื้นที่ทางตะวันตกของเมืองอเลปโป เขตควบคุมของกองกำลังรัฐบาล ในช่วงวันเดียวกัน ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบราย
อย่างไรก็ดี นับแต่กองกำลังรัฐบาลซีเรียเริ่มเปิดฉากโจมตีพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองอเลปโปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีรายงานประชาชนเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 225 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 27 ราย
ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียนำภาพประชาชนชาวซีเรียที่มีทั้งผู้หญิงและเด็กถูกพาขึ้นรถบัสที่ฝ่ายรัฐบาลจัดเตรียมไว้เพื่ออพยพออกจากพื้นที่สู้รบเข้ามายังพื้นที่ปลอดภัยด้วย