28 พ.ย.59 ชาวสวิสลงประชามติ ปฎิเสธข้อเสนอของพรรคกรีนให้เริ่มกระบวนการปิดโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ 5 โรง ในสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มต้นในปีหน้าด้วยคะแนนเสียง 55 ต่อ 45%
การลงประชามติว่ารัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ควรเร่งกระบวนการยุติการใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสวิตเซอร์แลนด์หรือไม่ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ปรากฏว่า ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนปฎิเสธข้อเสนอของพรรคกรีนให้เริ่มกระบวนการปิดโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ 5 โรง ในสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มต้นในปีหน้าด้วยคะแนนเสียง 55 ต่อ 45%
โดยโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ทั้ง 5 โรง ป้อนกระแสไฟฟ้าให้แก่ชาวสวิสถึงร้อยละ 40 ของไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมด หลังอุบัติเหตุไฟไหม้โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟูกูชิหมะ ของญี่ปุ่น รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ประกาศว่าจะผลักดันประเทศไปสู่การใช้พลังงานทดแทนให้ได้ภายในปี 2593 และโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ที่มีอยู่ทั้ง 5 โรงนี้จะยังคงเปิดทำการต่อไปตราบใดที่ยังถือว่าปลอดภัย และไม่ได้กำหนดเวลาในการปิดโรงงานอย่างชัดเจน
ด้านนักสิ่งแวดล้อมระบุว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใดๆ ไม่ควรใช้งานเกิน 45 ปี ซึ่งหมายถึงว่า อย่างน้อยโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์อย่างน้อย 2 แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ต้องปิดลงโดยทันที แต่นักธุรกิจและรัฐบาลสวิสแย้งว่า การเร่งกระบวนการปิดโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์เร็วเกินไป จะทำให้เกิดไฟฟ้าขาดแคลน และต้องหันมาพึ่งพาการผลิตไฟฟ้า โดยอาศัยน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น สำหรับชาวสวิสนั้น แม้จะตระหนักว่าโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ที่เก่าแก่นั้นไม่ปลอดภัย แต่การขาดแคลนไฟฟ้าเป็นเรื่องใหญ่กว่า เพราะไฟฟ้าของสวิสกว่า 1 ใน 3 มาจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ และสวิตเซอร์แลนด์เองก็จัดเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข่งขันกันมากที่สุดในโลก ประชาชนไม่ต้องการให้มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรค
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์มีแผนระยะยาว ที่จะเปลี่ยนไปสู่การผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลังงานทดแทนอยู่แล้ว และค่อยๆ ลดลดการพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ลงไปเรื่อยๆ จนถึงเลิกไปในที่สุด