(19 ต.ค.65)เมื่อเวลา 13.37น.ที่สำนักงานกสทช.นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงศาสตราจารย์คลินิก นพ. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช.และคณะกรรมการ
กสทช.ทุกคน คัดค้านการควบรวมทรู-ดีแทค ครั้งที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการ กสทช. เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของคณะกรรมการ กสทช. และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กรณีกลุ่มบริษัทในเครือซีพี (กลุ่มบริษัททรู) จะควบรวมกิจการกับกลุ่มบริษัทในเครือเทเลนอร์ (กลุ่มบริษัทดีแทค) ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกลิดรอนสิทธิ์ในการเลือกใช้บริการโทรคมนาคมพื้นฐาน และอาจถูกครหาว่าเป็นผู้มีอำนาจหนุนหลังนายทุนเอกชนที่มีกำลังทรัพย์เอาเปรียบประชาชน อันอาจทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสความสามารถในการแข่งขันด้านต่าง ๆ กับต่างประเทศอีกด้วยนั้น และเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 ยังได้ยื่นหนังสือคัดค้านการควบรวมกิจการดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีอีกทางหนึ่งด้วย
นายวัชระ กล่าวว่า ในฐานะเป็นผู้ใช้บริการโทรศัพท์ทรู ขอบอกว่า คณะกรรมการ กสทช. มีหน้าที่ในการป้องกันหรือรักษาประชาชนผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ป้องกันการผูกขาดตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายทุกฉบับโดยเคร่งครัด ดังนั้นขอคัดค้านกรณีการควบรวมทรู-ดีแทค เป็นครั้งที่ 2 แต่หากคณะกรรมการ กสทช. อนุมัติหรือเห็นชอบให้กลุ่มทรูและกลุ่มดีแทคควบรวมกิจการได้ อันทำให้ประชาชนหรือผู้บริโภคและตนเสียเปรียบด้วยเหตุผลข้างต้น ก็จะขอสงวนสิทธิเป็นผู้เสียหายฟ้องร้อง กสทช. ผู้อนุมัติกับพวกต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป
สำหรับตนแม้เป็นเพียงอดีตส.ส.แต่ยังสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน และเมื่อประชาชนเลี้ยงดูด้วยเงินภาษีประชาชนจากกองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาทุกเดือน จึงขอคัดค้านการควบรวมให้ถึงที่สุด ซึ่งต้องขออภัยนายทุนด้วย และเชื่อว่าประชาชนนับล้านคน รวมถึงบรรดาตุลาการที่ใช้โทรศัพท์มือถือย่อมเล็งเห็นผลกระทบจากการควบรวมนี้ เรื่องจึงควรนำสู่การพิจารณาของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไปเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย