ไวรัส ‘อีโบลา’ ระบาดหนัก ในแอฟริกาตะวันตก…องค์การอนามัยโลก ประกาศ “มีความจำเป็นต้องปฏิบัติการ
ขั้นสูงสุด” เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด หลังพบ ผู้ติดเชื้อในหลายประเทศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 600 ราย
และตายเพิ่มรวมแล้วถึง 360 ราย
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุ มีความจำเป็นที่ต้อง
ปฏิบัติการขั้นสูงสุดในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ ‘อีโบลา’ ในบริเวณภาคตะวันตก
ของทวีปแอฟริกา เนื่องจากตามรายงานล่าสุดของ WHO พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีีโบลา ในหลายประเทศ
ทั้งกินี เซียรา ลีโอน และไลบีเรีย เพิ่มขึ้นมากเป็นอย่างน้อย 600 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 360 ราย
ขณะที่โรงพยาบาลรีเดมพ์ตัน ในกรุงมอนโรเวีย เมืองหลวงไลบีเรีย ปรากฏว่า บรรดาพยาบาล
และคนไข้ต่างหวาดกลัวจะติดเชื้อไวรัสมรณะพากันหนีออกจากโรงพยาบาล จนเตียงคนไข้ว่างเปล่า
หลังมีผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งนี้
องค์การอนามัยโลกได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเดินทางไปช่วยแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในประเทศ
เหล่านี้ในแอฟริกาตะวันตก เพื่อช่วยในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา โดยบรรดาเจ้าหน้าที่
ขององค์การอนามัยโลกที่ได้ลงพื้นที่กล่าวด้วยความวิตกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา
ในขณะนี้รุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้ง การลงพื้นที่บางแห่ง เจ้าหน้าที่ยังต้องเผชิญกับการ
ถูกเข้าใจผิดและไม่ไว้วางใจจากชุมชน จนถึงขนาดถูกชาวบ้านขว้างปาก้อนหินใส่
ก่อนหน้านี้ นายแพทย์ บาร์ต แยนส์เซนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน
ชี้ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา ในภาคตะวันตกของแอฟริกา อยู่นอกเหนือการควบคุมแล้ว
หลังเริ่มแพร่ระบาดเมื่อช่วงปลายปี 2556 หรือราวต้นปี 2557 โดยระยะแรก การแพร่ระบาดเป็นไปอย่างช้าๆ
ก่อนจะเริ่มระบาดอย่างรุนแรงและรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเชื้ออีโบลายังแพร่กระจาย
ไปถึงเมืองหลวงของประเทศไลบีเรียเป็นครั้งแรก