ทีมชาติไทย “ช้างศึก” ส่งตัวสำรองออกดวลฟิลิปปินส์ค่ำนี้

    ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” รอบแรก กลุ่มเอ นัดสุดท้าย ที่ประเทศฟิลิปปินส์ มีโปรแกรมฟาดแข้งวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ เตะพร้อมกันเวลา 19.00 น. ตามเวลาไทย “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พบ “ตากาล็อก” ฟิลิปปินส์ เจ้าภาพ สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีและฟ็อกซ์ สปอร์ต เอชดี (ทรูวิชั่นส์ 680) ถ่ายทอดสด ส่วนอีกคู่ “อิเหนา” อินโดนีเซีย พบ “ลอดช่อง” สิงคโปร์ ที่สนามริซาล เมโมเรียล

สถานการณ์กลุ่มเอ ไทย มี 6 คะแนนเต็ม จากการชนะ อินโดนีเซีย 4-2 และชนะ สิงคโปร์ 1-0 ทำให้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ขณะที่ ฟิลิปปินส์ อยู่อันดับ 2 มี 2 คะแนน จากการเสมอ สิงคโปร์ 0-0 และเสมออินโดนีเซีย 2-2 ขณะที่อันดับ 3 อินโดฯ มี 1 คะแนน และอันดับ 4 สิงคโปร์ มี 1 คะแนนเท่ากัน โดยทั้ง 3 ทีมยังมีลุ้นเข้ารอบ

ความพร้อมของ ทีมชาติไทย มีเพียง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ ประทุม ชูทอง ที่ไม่พร้อมลงสนาม โดยรายแรกมีอาการป่วย ส่วนรายหลังบาดเจ็บ และไม่ได้ซ้อมกับทีมเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย จะพักตัวหลักเกือบยกชุด และให้ตัวสำรองได้ลงสนาม เนื่องจากผ่านเข้ารอบไปแล้ว นำโดย “จ่าเย็น” มงคล ทศไกร, “ก้อง” เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ชาริล ชัปปุยส์ ฯลฯ ส่วนระบบการเล่นคาดว่าจะเล่นระบบ 4-3-3

สำหรับผู้เล่น 11 คนแรกของ ไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, แบ็กขวา ทริสตอง โด, คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อดิศร พรหมรักษ์ กับ กรวิทย์ นามวิเศษ, แบ็กซ้าย พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, กองกลาง อดุล หละโสะ, ประกิต ดีพร้อม, ชาริล ชัปปุยส์, ริมเส้นขวา “เย็น” มงคล ทศไกร, ริมเส้นซ้าย “ก้อง” เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และกองหน้าตัวเป้า ศราวุฒิ มาสุข

สถิติที่เคยพบกันระหว่าง ไทย กับ ฟิลิปปินส์ ตามที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) รับรอง เจอกัน 19 ครั้ง ไทย ชนะ 16 ครั้ง ฟิลิปปินส์ ชนะ 2 ครั้ง เสมอกัน 1 ครั้ง โดยเจอกันล่าสุด 2 ปีก่อนใน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014” รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ฟิลิปปินส์ เสมอ ไทย 0-0 นัดที่ 2 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 ขณะเดียวกัน ไทย แพ้ ฟิลิปปินส์ ครั้งสุดท้าย ในการเจอกันที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่ง ไทย แพ้ 0-1 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 1972 หรือ 44 ปีที่แล้ว