เทศบาลตำบลเขาพระงาม
ตักบาตรข้าวต้มลูกโยนเขาพระงามเทโวโรหณะ
พุทธศาสนิกชนนับหมื่นแต่งกายด้วยผ้าไทย ร่วมประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนเขาพระงามเทโวโรหณะแด่พระสงฆ์ที่ลงจากยอดเขาถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา
วันอังคารที่ 11ตุลาคม 2565
เมื่อเวลา 07.00 น ว่าที่ร้อยตรี ทรงพล แป้นแก้ว นายอำเภอเมืองลพบุรี
ได้เป็นประธานในการนำเหล่าพุทธศาสนิกชนประกอบพิธี “งานประเพณีตักบาตรเทโวโหนหณะ ตักบาตรข้าวต้มลูกโยน” แด่พระสงฆ์ที่เดินลงจากยอดเขาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา ณ วัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี หรือวัดเขาพระงาม ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี
โดยมี นายพูลสวัสดิ์ ถือคง นายกเทศมนตรีตำบลเขาพระ พร้อมด้วย นางน้ำฝน ถือคง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี
ซึ่งมีเหล่าพุทธศาสนิกชนที่พร้อมใจแต่งกายด้วยผ้าไทย อย่างสวยสดงดงาม ร่วมกันทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะนับหมื่นคนมาร่วมพิธีในปีนี้ โดยมีขบวนผู้ที่แต่งการเป็นนางฟ้า เทวดา พระอินทร์ เดินนำพระสงฆ์ลงมาจากยอดเขาตามบันไดนาค จำนวน 295 ขั้น ที่เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระพุทธปฏิภาคมัธยมพุทธกาลหรือหลวงพ่อใหญ่ ที่สร้างมา 110
ปี ซึ่งเป็นที่เลื่อมใส่ศรัทธาของประชาชนทั่วไป
สำหรับการจัดงาน “ประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนเขาพระงามเทโวโรหณะ” นี้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามทำนุบำรุงสืบทอดพระพุทธศาสนา ตลอดจนสืบสานตำนานตักบาตรข้าวต้มลูกโยน ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ท้องถิ่น ผู้ที่ใส่บาตรไม่ถึงก็จะตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้โยนของไปตกลงในบาตรพอดี และเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามวิถีไทย วิถีพุทธ เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรได้เดินลงเพื่อมารับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนที่มายืนรอใส่บาตรกันอย่างเนื่องแน่น ตามประเพณีงานบุญใหญ่ที่เคยยึดปฏิบัติกันมาเป็นประจำทุกปี
ข้าวต้มลูกโยน
“ข้าวต้มลูกโยน” หรือ “ข้าวต้มหาง” เป็นเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการห่อข้าวต้มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ท้ามาจากข้าวเหนียวผัดกับกะทิ ถั่วด้า ผสมน้้าตาลทรายและเกลือ แล้วน้ามาห่อด้วยใบเตย หรือใบ
มะพร้าวอ่อน (คล้ายกับข้ามต้มมัด) โดยจะท้าเป็นกรวยห่อหุ้มข้าวเหนียว และเหลือใบไว้เป็นหางยาว ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการใส่บาตร เนื่องจากตามต้านานกล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงมีพระชนมายุอยู่นั้น
ทรงเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และเสด็จกลับมายังมนุษย์โลกที่เมืองสังกัสสะ ซึ่งตรง
กับวันแรม 1 ค่้า เดือน 11 ประชาชนต่างมารอเฝ้ารับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันนั้นท่านได้กล่าวไว้ว่าเป็น
วันเปิดโลก ท้าให้โลกมนุษย์ สวรรค์และนรก ต่างเห็นกันและกัน ประชาชนที่มาจ้านวนมากต่างปรารถนาใส่บาตรพระพุทธองค์ คนที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถจะใส่บาตรได้ถึง จึงใช้วิธีการโยนอาหารของตนลงในบาตร
ของพระพุทธเจ้าและพระสาวก โดยอาหารเหล่านั้นตกลงในบาตรเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง จึงถือเอาหลังวันออก
พรรษาหนึ่งวัน จัดให้มีประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนขึ้นเป็นประจำทุกปี
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ