ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เรียกประชุมด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือและวางแนวทางการป้องกันเหตุการณ์ใช้ความรุนแรง จากกรณีเกิดเหตุที่จังหวัดหนองบัวลำภู สั่งการทุกพื้นที่สำรวจผู้เสพ นำเข้าสู่กระบวนการรักษาพร้อมติดตามอย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนอย่างเข้มงวด
วันนี้ ( 10 ตุลาคม 2565 ) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมแควน้อย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุมซักซ้อมแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ใช้ความรุนแรง พร้อมด้วย นายกองเอก พงศธร ศิริสาคร นายชำนาญ ชื่นตา นายสมหวัง บุญระยอง นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พันเอกบรรเจิด จันทร์ส่งเสริม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ ๑๗ นายอนุชา วรหาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ร่วมกันหารือแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ใช้ความรุนแรง จากการถอดบทเรียนเพื่อวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์การที่เกิดความสูญเสียและกระทบต่อจิตใจของคนไทยเป็นอย่างมาก โดยได้มีการชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้เสนอความคิดเห็นร่วมกัน ทั้ง ตำรวจ ทหาร สาธารณสุข คุมประพฤติ อำเภอและท้องถิ่น
โดย ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการตามแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1. ให้อำเภอ ท้องถิ่น ชุมชน สำรวจรวบรวมรายชื่อของผู้ติดยาเสพติด รวมถึงผู้มีอาการทางจิตเวช โดยแยกสาเหตุที่ป่วย ว่ามีอาการจากโรค หรือ จากยาเสพติด โดยระบุตามความกลุ่มเสี่ยง แสดงอาการน้อย ปานกลาง มาก หรือระดับที่จะต้องเฝ้าระวัง จากนั้นให้เจ้าหน้าที่คอยติดตามเฝ้าระวัง ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องเป็นความลับไม่เผยแพร่สู่สาธารณะชน
2. รายชื่อผู้ที่ติดยาเสพติด ให้รวบรวมรายชื่อส่งให้ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมนำผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา หลังจากเข้ารับการรักษาและกลับสู่ชุมชนแล้ว จะต้องมีการติดตามหลังเข้ารับการรักษาแล้วอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จะมีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติงาน ขั้นตอนให้เจ้าหน้าที่นำไปปฏิบัติไปตามทิศทางเดียวกัน
3.ให้สำรวจ ติดตามกลุ่มข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ เพื่อที่จะดำเนินตามระเบียบและนำเข้าสู่ระบบการรักษา ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องเป็นความลับไม่เผยแพร่สู่สาธารณะชน
4.การควบคุมเกี่ยวกับอาวุธ ในการขออนุญาตซื้อและครอบครองอาวุธปืน จะต้องมีเอกสารการรับรองความประพฤติประกอบด้วย นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนไปแล้ว หากพบว่าผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขาดคุณสมบัติให้ดำเนินการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตนั้นได้ทันที
5.มาตรการการดูแลภายในศูนย์เด็กเล็ก สถานศึกษา และสถานที่ราชการ ขอให้มีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยขอให้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทุกแห่ง พร้อมเข้มงวดกวดขันผู้ที่จะเข้าไปในสถานที่นั้น หากพบว่ามีความผิดปกติเป็นบุคคลน่าสงสัยให้ตรวจค้นอาวุธและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าไปดูแลโดยด่วน
6. เน้นย้ำให้ผู้นำในท้องที่ ท้องถิ่น สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ถึงแนวทางป้องกันและวิธีการป้องกันตนเอง หากเกิดสถานการณ์ความไม่ปลอดภัย พร้อมทั้งช่วยกันสอดส่องดูแลในชุมชนต่อปัญหายาเสพติด โดยร่วมกับผู้ในชุมชน คนในชุมชน แจ้งเบาะแสผู้จำหน่ายยาเสพติด เพื่อที่จะจับกุมดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนผู้เสพให้นำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานนำไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่จะทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันเนื่องมาจากปัญหาที่เกิดจากยาเสพติด