ตามที่เกิดพนังกั้นน้ำบริเวณตำบลบ้านหม้อ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ไม่สามารถกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้ได้ ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ตำบลบ้านหม้อ เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ของคืนวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนในหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 8 จำนวน 1,318 ครัวเรือน
ที่ผ่านมาตั้งแต่เช้าของวันที่ 4 ตุลาคม 2565 จังหวัดสิงห์บุรี ก็ได้ร่วมกับอำเภอพรหมบุรี และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหม้อ ตั้งศูนย์ทำการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยมีนายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นผู้บัญชาการช่วยเหลือเฝ้าอยู่ประจำ ประชาชนส่วนหนึ่งจำนวนประมาณ 40 กว่าคนที่บ้านเป็นบ้านชั้นเดียวที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้เลย และผู้ป่วยติดเตียง ก็ได้ทำการอพยพไปอยู่ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดศรีพรหมประสิทธิ์ และโรงเรียนพรหมบุรีรัชดาภิเษก ส่วนที่ยังอาศัยอยู่ชั้นสองของบ้านได้ ก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ นำเรือมาบริการรับส่ง บริการจัดส่งอาหารให้ถึงที่ ในขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนน้ำล้นถนนริมคลองชลประทานมหาราช ข้ามฝังไปยังถนนหมายเลข 32 หรือถนนสายเอเชียถนนสายหลักที่ขึ้นภาคเหนือ
ล่าสุดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี ได้นำรถแบ๊คโฮจำนวน 5 คัน ไปขุดทำการปั้นคันกั้นน้ำบนถนนคันคลองมหาราชแล้ว เพื่อไม่ให้น้ำข้ามไปอีกฝังหนึ่งที่เป็นฝั่งถนนสายเอเชีย เพราะหากปล่อยให้น้ำข้ามไปได้ก็จะส่งผลกระทบกับประชาชนอีกฝั่งถนนหนึ่ง ที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้น้ำอาจลอดถนนสายเอเชียไปท่วมในพื้นที่อำเภอท่าวุ้งจังหวัดลพบุรีได้
ทั้งนี้นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ก็ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยที่อาศัยอยู่ที่พักพิงชั่วคราวโรงเรียนพรหมบุรีเมื่อเย็นของวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และวันนี้ที่ 5 ตุลาคม 2565 ก็ได้ลงพื้นที่ไปติดตามการทำงานปิดกั้นน้ำไม่ให้ไหลข้ามถนนริมคลองมหาราชไปถนนสายเอเชีย นอกจากนี้ก็ไปเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยด้วย
กชกร พวยไพบูลย์
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสิงห์บุรี
