รัฐบาลยูเครนยืดเวลาหยุดยิงกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ออกไปอีก 3 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี
โปโรเชนโกร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับอียูแล้ว ชี้เป็นเหตุการณ์สำคัญสุดครั้งที่ 2
ของยูเครนหลังแยกตัวเป็นเอกราชจากรัสเซีย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าทำเนียบประธานาธิบดียูเครนประกาศขยายระยะเวลาหยุดยิงกับกลุ่มกบฏ
แบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครนออกไปอีก 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมง จนถึงคืน
วันจันทร์ที่ 30 มิ.ย. ขณะที่ เมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา (27 มิ.ย.) ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน
ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงเบลเยียม
ประธานาธิบดีโปโรเชนโก กล่าวว่า การลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจกับอียู
คือเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดครั้งที่ 2 ของยูเครน นับตั้งแต่ได้แยกตัวเป็นเอกราชจากรัสเซีย
พร้อมกันนั้นผู้นำใหม่ของยูเครนยังได้ยกย่องสดุดีชาวยูเครนที่สละชีวิต ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาล
อดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ที่ยกเลิกการร่วมลงนามในข้อตกลงฉบับนี้กะทันหัน
จนนำไปสู่การเกิดเหตุรุนแรง
ทั้งนี้ ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างยูเครน กับอียู คือ ชนวนเหตุของการเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหม่ในยูเครน
และยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้ หลังจากอดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ได้ยกเลิกการลงนามกะทันหัน
จนเป็นเหตุให้ชาวยูเครนนิยมตะวันตกลุกฮือประท้วงจนเกิดการนองเลือด และทำให้นายยานูโควิช
ถูกรัฐสภามีมติถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อ ก.พ.ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ยังลุกลามบานปลาย ทำให้ ชาวยูเครนในภาคตะวันออกนิยมรัสเซียลุกฮือเรียกร้อง
ขอแยกดินแดนออกจากการปกครองของยูเครนเหมือนกับที่ภูมิภาคไครเมีย จนมีการจัดตั้งกลุ่ม
ติดอาวุธขึ้นมาโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย และพยายามก่อเหตุรุนแรงเพื่อแบ่งแยกดินแดน
ด้านปฏิกิริยาของรัฐบาลรัสเซีย ต่อการที่ผู้นำใหม่ยูเครนตีจากรัสเซีย ‘ลูกพี่เก่า’ หันไปจับมือกับชาติ
ตะวันตกนั้น โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเตือนว่า การลงนามในข้อตกลงระหว่างยูเครนกับอียู
เป็นสิทธิตามอธิปไตยของยูเครน แต่รัสเซียจะเข้าแทรกแซง ถ้าหากมาตรการเหล่านี้ส่งผลลบต่อตลาดการค้าของรัสเซีย