ผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือเอเปค ประกาศจะต่อต้านการกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ
แถลงการณ์ปิดการประชุมสุดยอดเอเปค 2 วันที่กรุงลิมาของเปรูซึ่งปิดฉากลงเมื่อวันอาทิตย์ (20 พ.ย.) ระบุว่า ผู้นำเอเปคขอย้ำพันธกิจที่จะทำให้ตลาดเปิดกว้างต่อไป จะต่อต้านการกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ จะต่อต้านนักกีดกันทางการค้า และมาตรการบิดเบือนการค้าที่ทำให้การค้าซบเซาและชะลอความก้าวหน้ารวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และจะไม่แข่งขันกันลดค่าเงิน
ด้านประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐใช้เวทีสุดยอดเอเปคย้ำเรื่องการค้าเสรีและความมั่นคงหลังจากประชาคมโลกเกิดความวิตกว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่สานต่อนโยบายของเขา โดยได้ขอให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียเพิ่มความพยายายามยุติเหตุรุนแรงในซีเรียและยุติความขัดแย้งในยูเครน
ขณะเดียวกันแถลงการณ์ยังขอให้พันธมิตรในเอเปคเดินหน้าเรื่องเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอต่อไป รวมถึงข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก หรือทีพีพี ขณะที่ท่าทีต่อต้านการค้าเสรีของนายทรัมป์ทำให้สมาชิกทีพีพีอีก 11 ชาติเริ่มหันไปหาจีนที่ไม่ได้อยู่ในทีพีพี
ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนก็ใช้เวทีนี้ผลักดันเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก 21 เขตเศรษฐกิจ หรือเอฟทีเอเอพี และความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมในภูมิภาค 16 เขตเศรษฐกิจ หรืออาร์ซีอีพี ที่ไม่มีสหรัฐอยู่ในอาร์ซีอีพี