จากกรณีที่มีคลิปหน้าคล้ายนักร้องสาว “หวาย ปัญญริสา” หรือ “หวาย กามิกาเซ่” อาละวาดอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ล่าสุดในวันนี้ (21 พ.ย.) หวาย กามิกาเซ่ ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิด โดยเจ้าตัวได้เผยให้ฟังว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าเล่าแบบสั้นๆ เลยคือเราถ่ายรูปกับแฟนคลับอยู่ และมีคนเดินเข้ามาถามว่ากวนเหรอ นี่พูดแบบสุภาพนะ เราก็บอกว่าเปล่า แต่อยู่ดีๆ ก็มีคนเอาขวดแก้วฝาดหัว เราก็มึนช็อคไปหมด แต่ก็ยอมเดินออกมา แต่พอสติกลับมาก็คิดว่าใครทำเรา ตอนนี้ปวดหัวมาก เพราะเราเคยกระโหลกร้าวมา ยิ่งปวดแบบนี่ยิ่งทำให้คิดว่าข้างในจะเป็นอะไรไหม
ซึ่งตอนนั้นก็ไม่เห็นคู่กรณีแล้ว แต่พอมาจุดสองเราได้เจอคู่กรณีที่เห็นในคลิปกันค่ะ เราก็โดนทำเป็นรอบสอง เลยเป็นแบบที่เห็นในคลิปค่ะ คือเรียกว่าเราโดนซ้อมเลยก็ว่าได้ อย่างที่ทุกคนเห็นมาการตะลุมบอนกันด้วย เพราะเราก็ต้องป้องกันตัว
สำหรับตัวหนูจำอะไรไม่ได้เลย ไม่เคยรู้จักคู่กรณีเลย ไม่เคยเห็นหน้าด้วย เลยทำให้เรางง วันนั้นเป็นวันที่หนูแฮปปี้และมีความสุขมากจิงๆ กำลังจะกลับบ้านแล้วแต่เจอเหตุกาณร์แบบนี้ไม่โอเคเลย
วันนั้นมีนัดทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่แฟน และได้คุยเรื่องงานกัน เราก็ชวนไปข้างนอกไหมจะได้รีแล็กซ์ เพราะหวายก็ไม่ได้ออกไปสถานที่แบบนั้นนานแล้ว เราไปเที่ยวผับก่อน พอจะถึงรถก็เกิดเรื่องขึ้นเลย
ตัวหนูเองไม่ได้สังเกตใครเลย ไม่ได้ไปเดินชนใคร ไม่ได้โดนชนนม ตัวหวายเองรู้ว่าวันนั้นมีสติเต็มร้อยค่ะ ไม่ได้ดื่ม เรากำลังอยู่ในช่วงที่แฮปปี้มาก แต่หนูไม่รู้ทำไมคนต้องคิดว่าอยู่ดีๆ หนูจะต้องเข้าไปหาเรื่องใคร แฟนหนูดื่มแต่น้อยแค่เบียร์ขวดเดียว อยากให้ตัดเรื่องแอลกอฮอล์ลง มันไม่ได้เกี่ยวเลย ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามทางตำรวจได้
ก่อนหน้าก็ไม่เคยมีเรื่องกับใครในที่ที่ของเขา มันไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ตอนปีใหม่แน่นอนค่ะ เพื่อนหนูเป็นคนโดนไม่ใช่หนู คู่กรณีไม่ได้แตะหนูเลย หนูก็ไม่ได้แตะเขาด้วย แต่คราวนี้มาเป็นหนูที่โดนเองเลยงง
ตัวหวายอยากจะทราบจากฝั่งเขาเหมือนกันว่ายังไง แต่มีแค่ฝ่ายชายมาคุยกับแฟนหงายว่าฝั่งผู้หญิงนั้นผิดจริง หากมีอะไรจะให้ช่วยเหลือเขายินดีแต่ไม่ขอออกสื่อ
หลังจากเกิดเหตุจุดที่สอง หนูเป็นคนบอกตำรวจเองว่าอยากไปตอนนี้ ไม่กลัวเป็นข่าว เราโดนเราไม่สน เราคิดว่ามันคงไม่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอยากแค่เคลียร์กับคู่กรณี หนูเจ็บหัวมากจนคิดว่าจะตาย รอคุ่กรณีจนไม่มา คุณตำรวจเลยพาไปโรงพยาบาลค่ะ คู่กรณีเขาไม่มาแล้ว
ตอนนี้สะเทือนใจมากกว่าค่ะ ยังช็อค สภาพจิตใจยังไม่พร้อม แต่ก็อยากออกมาบอกทุกคนให้รับรู้ในมุมที่เกิดขึ้นกับวายบ้าง หลังจากที่ออกมาพูดวันนี้ก็ดีใจ แต่ถามว่าสภาพจิตใจโอเคไหม บอกเลยว่าไม่
ตอนที่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล เราก็บอกว่าโดนทำร้ายร่างกายมา หมอก็บอกมีรอยฟกช้ำตามร่ายกายและใบหน้า มีอาการบวมที่ศรีษะ ดวงตา หมอให้แอดมิดแต่หนูไม่อยากแอดมิดขอกลับบ้าน แล้วพอไปอีกรอบหมอบอกให้แอดมิดและเอ็กซเรย์ เราก็บอกไม่ได้ต้องรีบกลับมากรุงเทพฯ เอาจริงๆ หนูก็กลัวว่ามันจะมีผลกระทบกับอาการกะโหลกร้าวเหมือนกันค่ะ ตอนนี้หนูไม่พร้อมที่จะออกไปเจอใครเลย
ในส่วนขอการแจ้งความตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งความ ใจจริงเราอยากดำเนินคดีแต่ต้องคุยกับผู้ใหญ่ เรื่องแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียว แต่เราก็อยากจะออกมาปกป้องตัวเองด้วย อย่างที่บอกต้องคุยกับผู้ใหญ่และรวบรวมหลักฐานก่อน ถามว่าได้คุยกับคู่กรณีหรือยัง ไม่ได้คุยไม่ได้ติดต่ออะไรเลย ตัวเราเองก็ไม่อยากเจอกับเขา
ก่อนหน้านี้มีเพียงแฟนของคู่กรณีติดต่อมาผ่านทางมิโน่ (แฟนหนุ่ม) แต่ตัวผู้หญิงไม่ได้ติดต่อมาเลย เราเองก็ไม่คิดที่จะพูดหรือเจอกับเขาเร็วๆ นี้ เหมือนมันยังเจ็บใจมากและความรู้สึกของตัวหนูมันไม่เหมือนเดิมแล้ว เอาจริงๆ เราก็อยากรู้ว่าทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ มันหาเหตุผลอื่นไม่ได้จริงๆ นอกจากเขาไม่ชอบเรามาก่อนหน้านี้ เพราะเราไม่เคยเจอไม่คุยกันมาก่อนเลยคิดว่าไม่น่าจะมีเหตุผลอื่นนอกจากเรื่องนี้
ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาวแน่นอน เพราะหนูถามมิโน่แล้วเขาไม่รู้จักกับผู้หญิงคนนี้เป็นการส่วนตัว เขาคงเป็นแฟนใหม่ของผู้ชายที่โทรเคลียร์ เขาก็บอกขอโทษผู้หญิงคนนั้นจริง เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนของเพื่อนมิโน่อีกทีรู้จักกันห่างอยู่แล้ว ที่สำคัญวันนั้นเราไม่นั่งโต๊ะเดียวกันและไม่ได้ไปด้วยกันด้วย เขาก็ถามแฟนเขาเหมือนกันว่ามาทำร้ายเราทำไม ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบไม่รู้ แต่วันนั้นโต๊ะนั้นเมาทุกคน
ก็อยากจะบอกถึงคนที่ตีความในคลิปผิดไปว่าอยากให้ทุกคนเข้าใจหนูเปิดใจยอมรับฟังหนูบ้าง เราเป็นคนเหมือนกัน เข้าใจว่าในคลิปที่ทุกคนดูกัน ไม่ได้มีคนเห็นภาพหนูเยอะ แล้วได้ยินเสียงหวายตะโกน มันเป็นเพราะว่าเราโดนกระทำและตกใจ มันต้องมีพูดถามบ้าง จะให้เรายืนร้องไห้เฉยๆ มันก็ไม่ใช่ ในชีวิตพูดเลยว่าหนูไม่เคยโดนใครทำแบบนี้เลยค่ะ
เอาจริงๆ วันนั้นหวายมีความสุขมาก เพราะตัวหวายเองก่อนหน้านี้มีเรื่องเครียดหลายๆ อย่างเหมือนกันในปีนี้ ถ้าเป็นคนรอบข้างของหวายก็จะพอรู้อยู่บ้าง และมันเป็นอะไรที่ยากมากที่หนูจะมีความสุขทั้งวันอย่างวันนั้น ซึ่งมันไม่ได้เป็นปกติสำหรับหนูเลย อย่างที่บอกเรามีอะไรให้เครียดหลายๆ อย่าง พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราก็เลยรู้สึกเสียใจ เพราะเราเองก็พยายามที่จะมีความสุข
พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทางครอบครัวก็เป็นห่วง และคอยปลอบใจอยู่ข้างๆ ตลอด เพราะเขารู้ว่าเราเป็นคนยังไง เขาจะคอยบอกตลอดง่สอย่าเครียด อย่าคิดมาก ข่าวก็คือข่าว เรารู้อยู่แล้วว่าความจริงเป็นยังไง และเขาก็อยากให้เราไปแจ้งความ เพราะอะไรที่ลูกมีความสุขก็โอเค ถามว่าเราอยากแจ้งความไหม ก็อยาก แต่ก็มีความรู้สึกเห็นใจเขาอยู่นิดนึง ถ้ามีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ก็น่าจะโอเค แต่สำหรับหนูคิดว่าเขาไม่น่าจะเข้ามาขอโทษ มิโน่เองก็รู้สึกสงสารและเป็นห่วง แต่ถ้าถามว่าถ้าเขามาขอโทษและจะให้อภัยไหม มันก็ตอบยาก แล้วตัวหนูคงไม่กล้ากลับไปในสถานที่เกิดเหตุนั้นเร็วๆ นี้ เพราะยังรู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน