โปรเมกล่าวต่อว่า เมื่อปีที่แล้ว ตนไม่ผ่านการตัดตัวถึง 10 รายการติดต่อกัน แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ก็รู้สึกพอใจที่ต้องผ่านอุปสรรคตรงนั้น เพราะช่วยให้มีวันนี้ ปีนี้พยายามเปลี่ยนมุมมอง คิดบวกให้มากขึ้น และสนุกกับการเล่นให้มากขึ้น ทุกอย่างจึงออกมาดี หลังจบการแข่งขันรอบสองซึ่งลิเดีย โค ขึ้นไปนำและโดนทิ้งห่างถึง 8 สโตรก คิดว่าโคอาจจะกวาดทุกรางวัลในปีนี้ แต่พอจบรอบสาม เก็บเพิ่มอีก 7 อันเดอร์พาร์ จนมาเสมอกับโค ก็เริ่มเล่นด้วยความมั่นใจ และคิดว่ามีโอกาสที่จะคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมได้
“รู้สึกดีใจที่ทำให้คนไทยมีความสุขและภูมิใจไปกับความสำเร็จของหนูด้วย ยิ่งปีนี้ตั้งใจมากเป็นพิเศษ เพราะอยากถวายความสำเร็จแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงรู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ ต้องขอบคุณคุณแม่และพี่สาวที่คอยอยู่ข้างๆ มาตลอด และขอบคุณชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา” นักกอล์ฟหญิงแห่งปี กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถิติการทำเบอร์ดี้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของ LPGA Tour รวม 469 ครั้ง ทำลายสถิติเดิมของสเตซี่ ลูอิส อดีตมือ 1 ของโลกชาวอเมริกันซึ่งเคยทำไว้ 451 ครั้งเมื่อปี 2014 ลงได้ โปรเมกล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าตนลงแข่งขันหลายรายการตลอดทั้งปี และไม่คิดว่ามาจากสไตล์การเล่นบุกอย่างที่บางคนมอง เพราะถ้าเล่นบุกจริงตนคงต้องพกไดรฟ์เวอร์ไปเกือบทุกทัวร์นาเมนต์แล้ว ปีหน้าจะพยายามใช้ไดรฟ์เวอร์ให้มากขึ้น
“สำหรับโบนัส 1 ล้านดอลลาร์ที่ได้มา ตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่สัปดาห์หน้ามีแผนจะไปเที่ยวดิสนีย์เวิลด์กับครอบครัวเพื่อฉลองวันเกิดอายุครบ 21 ปี ในวันพุธที่ 23 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ถึงตอนนั้นคงได้ใช้เงินบ้าง”
โปรเมกล่าวในตอนท้ายว่า ช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดในปีนี้คงเป็นการคว้าแชมป์รายการแรกในศึก Yokohama Tire LPGA Classic ในเดือนพฤษภาคม และในรายการนั้นตนเจอกับแฟนกอล์ฟหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาแฟนคนนี้ก็จะตามมาเชียร์หลายรายการ รวมถึงในรายการนี้ด้วย รู้สึกเหมือนเด็กหญิงที่น่ารักคนนี้เป็นคนนำโชคดีมาให้ ก่อนกล่าวติดตลกว่า หวังว่าในปีหน้า แฟนตัวจิ๋วคนนี้ก็จะตามไปเชียร์อีกเรื่อยๆ