18 พ.ย. 59 – ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยคดีดำ อ.3766/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง ธนธรณ์โฆษิตจิร อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่จำเลยคดีค้ามนุษย์และหมิ่นเบื้องสูง,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ ธนธรณ์โฆษิตจิร อายุ 68 ปี,นายถาวร พวงประทุม อายุ 66 ปี และนายศักดิ์ สิริยาคม อายุ 50 ปี เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ,ร่วมกันฉ้อโกง,ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสาราชการปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา 112 , 265 , 268 , 341
โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 17 พ.ย.59 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.53-16 มี.ค.57 จำเลยทั้งสี่ ร่วมกันหลอกลวงบริษัท ฮุ่ยเหลียง สกรีน พริ้นติ้ง จำกัด ที่มีน.ส.นิธิกุล ทวีโชติธนกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ 1,นางอรวรรณ กงกุล ผู้เสียหายที่ 2,นายธีระ ตัณฑรังสี ผู้เสียหายที่3 และน.ส.ขวัญเรือน อินทร์เขียว ผู้เสียหายที่ 4หลายครั้ง หลายหน ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จอ้างว่าหากทำบุญกับเบื้องสูงจะได้บุญมากกว่าการทำบุญด้วยวิธีการอื่นๆ โดยเฉพาะผลไม้เมื่อเอาผลไม้เข้าไปถวายแล้วจะนำผลไม้ส่วนหนึ่งไปทำบุญกับพระสมเด็จ (พระราชาคณะชั้นสมเด็จขึ้นไป) ตามวัดต่างๆและอีกส่วนหนึ่งจะนำไปแจกให้กับเบื้องสูง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเบื้องสูงทรงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำบุญด้วยการนำผลไม้ไปถวายอันเป็นความเท็จในประการที่จะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา
นอกจากนี้จำเลยกับพวก ยังหลอกลวงว่า จะช่วยวิ่งเต้นให้เพื่อนของน.ส.นิธิกุล ผู้เสียหายที่ 1 ได้รับงบประมาณขุดลอกคลอง ภาคอีสานจากหน่วยงานราชการ และอ้างว่าจำเลยที่ 1 เป็นบุตรบุญธรรมของคุณหญิงท่านหนึ่ง โดยให้ น.ส.นิธิกุล ผู้เสียหายที่ 1 เอาเงินไปซื้อแหวนเพชรและเอาเงินสดไปดูแลรับรองคุณหญิงคนดังกล่าว รวมทั้งยังได้หลอกลวงน.ส.นิธิกุล ผู้เสียหายที่ 1 กับผู้เสียหายอื่นอีกหลายครั้ง เช่น การจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้แก่นางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง จำเลยที่ 1 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแล้วอ้างประกาศต่อหน้าผู้มาร่วมงานว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง นำของขวัญมามอบให้
รวมทั้งพวกจำเลยยังได้ หลอกลวงให้ร่วมทำบุญทอดกฐินพระราชทาน และให้ตัดเสื้อผ้าจำนวนหลายชุด อ้างว่าจะนำไปสวมใส่ในงานกฐินพระราชทานที่วัดในจังหวัดสมุทรสาคร โดยนางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง จำเลยที่1ยังได้ปลอมหนังสือของสำนักราชเลขาธิการด้วย ซึ่งรวมเงินที่พวกจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายไปทั้งสิ้น 5,140,880 บาท โดยโจทก์ขอให้ศาลสั่งพวกจำเลย คืนเงินหรือชดใช้เงิน แก่ผู้เสียหายจำนวนดังกล่าวด้วย
ซึ่งศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งสี่ มาจากเรือนจำเพื่อสอบคำให้การ โดยอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสี่ฟังแล้ว ปรากฏว่านางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง จำเลยที่1และนายศักดิ์ จำเลยที่ 4 ให้การรับสารภาพ
ศาลจึงได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยที่1และ 4 กระทำผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานดูหมิ่นเบื้องสูง ให้จำคุกจำเลยทั้งสอง 33 กระทง รวมจำคุกคนละ 130 ปีและ ฐานฉ้อโกงคนละ 2 กระทงๆ ละ 7 ปีรวม 14 ปี โดยเมื่อรวมโทษทุกกรรมแล้ว จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 144 ปี นอกจากนี้นางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง จำเลยที่ 1 ยังมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมให้จำคุกอีก 2 กระทงๆ ละ 3 ปี รวม 6 ปี จึงจำคุกนางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง จำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 150 ปี
โดยคำรับสารภาพของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกนางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง จำเลยที่ 1 ไว้ทั้งสิ้น 75 ปี ส่วนนายศักดิ์ จำเลยที่ 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 72 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อลงโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้วให้จำคุกได้ไม่เกิน 50 ปี จึงให้จำคุกนางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง จำเลยที่ 1 และนายศักดิ์ จำเลยที่ 4 ไว้คนละ 50 ปี และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายตามฟ้องด้วย
ส่วน พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ ธนธรณ์โฆษิตจิร จำเลยที่ 2 และนายถาวร พวงประทุม จำเลยที่3แถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงให้แยกฟ้องจำเลยที่ 2 – 3 ใหม่ภายใน 7 วันตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอาญา มีคำตัดสินแล้ว นางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง จำเลยที่ 1 และนายศักดิ์ จำเลยที่ 4 ถูกควบคุมตัวไปคุมขังยังทัณฑสถานหญิงกลาง และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป
ส่วน พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ จำเลยที่ 2 และนายถาวร จำเลยที่ 3 ซึ่งต้องรออัยการยื่นฟ้องเป็นสำนวนใหม่เพราะให้การปฏิเสธต่อสู้คดีนั้น ก็ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำเช่นกัน เนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณา