วันที่ 9 กันยายน 2565 เวลา 10.00 น. ณ ฮอลล์ 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา : กระทรวงพาณิชย์ หนุน sacit หรือสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) เดินหน้าจัดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” รวมงานหัตถศิลป์ไทย อันทรงคุณค่าและงานคราฟต์ร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับช่างฝีมือและผู้ประกอบการไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ตั้งเป้ายอดจำหน่าย 140 ล้านบาท ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 นี้ ที่ไบเทค บางนา
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งการส่งเสริมผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องไปกับนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ และ การกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ และเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการในทุกระดับ ควบคู่ไปกับปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ตอบสนองเมกะเทรนด์ของโลก
รมช.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนให้มีการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ และผลิตภัณฑ์งานศิลปหัตถกรรมไทยด้วยการประยุกต์นำนวัตกรรมเทคโนโลยี และออกแบบดีไซน์ให้ทันสมัย เน้นมีฟังก์ชันการใช้งานเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนในการผลิตการรับรองมาตรฐานให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย สอดคล้องกับตลาดเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งจะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้สินค้าของไทยโดดเด่นมากขึ้น
โดยการจัดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” ในครั้งนี้ ภายในงานจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมมากถึง 650 ราย ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ สู่การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย พัฒนาด้านการตลาดให้ผู้ประกอบการขยายกลุ่มผู้บริโภควงกว้างทั้งใน และต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการตามวัตถุประสงค์ของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงเรื่องของเศรษฐกิจชีวภาพ หรือ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่ sacit ได้ขานรับแนวคิด BCG ส่งเสริมและขับเคลื่อนสินค้าไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าหัตถศิลป์และไลฟ์สไตล์ที่มาร่วมจัดแสดงภายในงาน ล้วนเป็นผู้ประกอบการที่นำแนวทาง BCG มาปรับใช้ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการใช้วัสดุหลักจนถึงกระบวนการผลิตแล้วเสร็จ
สำหรับกิจกรรมภายในงาน sacit ได้จัดเตรียมพื้นที่การเจรจาธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มช่องทางการส่งออกและการจัดจำหน่าย เกิดความสะดวกรวดเร็ว,การมอบเกียรติบัตรแก่ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2565,การจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โครงการเซรามิค สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โครงการกำลังใจ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและทักษะเชิงช่าง จากกลุ่มครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม รวมถึงงานคราฟต์ร่วมสมัยจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นับหมื่นรายการ กว่า 650 ร้านค้า คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย มียอดจำหน่าย ภายในงานกว่า 140 ล้านบาท
กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ขอเชิญชวนคนไทยไปร่วมภาคภูมิใจ เป็นกำลังใจ อุดหนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยจากฝีมือชั้นครูและผู้ประกอบการไทย ที่งาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” ระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน