วันที่ 5 กันยายน 2565เวลา15.00น นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายวิรพัฒน์ อ่อนสุระทุม หัวหน้าสำนักงานป้องกันแลบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเตรียมพร้อมป้องกันปัญหาน้ำท่วม ณ สำนักชลประทานที่ 10 โดยมีนายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 10 และนายประเสริฐ เล็กรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานลพบุรี ได้รายงานสถานการณ์และเตรียมการวางแผนพร้อมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ในการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดลพบุรี โดยได้เตรียมความพร้อมการเดินเครื่องสูบน้ำของสถานีสูบน้ำหลักที่ตั้งอยู่บนคันคลองฝั่งซ้ายของคลองชัยนาท -ป่าสัก ทั้ง 16 แห่ง เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ มีการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนที่สถานีอุตุนิยมวิทยาบัวชุม จำนวน1 เครื่อง รัศมี 80 กิโลเมตร ซึ่งจะสามารถคาดการณ์และคำนวณปริมาณน้ำท่าที่จะไหลลงคลองลำสนธิและแม่น้ำป่าสักในการแจ้งเตือนภัย และจะเพิ่มการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงหรือที่ลุ่มในพื้นที่ชุมชนให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด
และบริเวณสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าท่าหลวง ซึ่งชำรุด และอยู่ระหว่างการพิจารณาขอรับสนับสนุนงบประมาณ ในขณะนี้สำนักงานชลประทานที่ 10 ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราว ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จำนวน 1 เครื่อง เพื่อเตรียมสำรองทดแทนเครื่องเดิมที่ชำรุดไว้แล้ว สำหรับการบริหารจัดการน้ำบริเวณเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทาน จะใช้ลำน้ำหลักคือ แม่น้ำเจ้าพระยา ในการเร่งระบายน้ำ ลงสู่อ่าวไทยและได้เตรียมแผนการป้องกันกรณี หากพื้นที่ฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก ช่วงที่ผ่าน จ. ลพบุรีมีปริมาณน้ำมาก จะลดการรับน้ำเข้าที่ประตูระบายน้ำมโนรมย์ เพื่อให้คลองชัยนาท-ป่าสัก มีพื้นที่ว่างรองรับน้ำหลากที่มาจากฝั่งซ้ายของคลองชัยนาท-ป่าสักให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีและคณะฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามแผนงานโครงการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จำนวน 4 จุด ได้แก่ สถานีสูบน้ำชั่วคราวบนคันคลองฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณด้านข้าง สำนักชลประทานที่10 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า (ชั่วคราว) ขนาด3ลบ.ม.ต่อวินาที จำนวน2ครื่อง เพื่อระบายน้ำท่วมขังลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ตามแผนการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ชุมชนเทศบาล ตำบลเขาพระงาม และตำบลไผ่ขวาง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี บริเวณสามแยกตรงข้ามสำนักงานชลประทานที่ 10 โดยทางแขวงทางหลวงลพบุรี ได้วางท่อระบายน้ำลอดถนนและขยายขนาดท่อลอดใต้ทางเชื่อมทั้งสองฝั่งของถนนบวรเดชดำริ ( ตั้งแต่สี่แยกโคกกะเทียม ถึงหน้าสำนักงานชลประทานที่ 10) เพื่อให้น้ำที่ไหลจากฝั่งสำนักงานชลประทานที่10 ไหลลอดมาบรรจบกับมวลน้ำที่ไหลมาจากตลาดเสาธง ตำบลเขาพระงาม โดยมีแผนที่จะทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพิ่มเติม บริเวณด้านข้างป้อมตำรวจ เพื่อช่วยระบายน้ำอีกทางหนึ่ง
และบริเวณปรับปรุงฝายท่าเดื่อ (คลองระบายน้ำห้วยซับเหล็ก) ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี งบประมาณ 25 ล้านบาท โดยปรับปรุงสันฝาย ทำเขื่อนป้องกันตลิ่งโดยใช้ คอนกรีตแมสทิก ซึ่งจะช่วยหน่วงและชะลอน้ำหลากที่จะไหลลงบริเวณสี่แยกนิคม สามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมชุมชนและผันน้ำไว้ใช้ในการเกษตรได้ ซึ่งดำเนินการได้ 70% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน 65 นี้ พร้อมทั้งตรวจติดตามการปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้นอ่างซับเหล็ก โดยยกบานฝายพับได้ด้วยระบบไฮโดรลิค สามารถสั่งการด้วยระบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มความจุปริมาณน้ำเก็บกักของอ่าง จากเดิม 9 เพิ่มเป็น 10.5 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะรองรับน้ำหลากไมให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนริมถนนพหลโยธินบริเวณสี่แยกนิคม และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง และรองรับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดลพบุรี ขณะนี้ดำเนินการได้ 75% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 65 นี้เช่นกัน
ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสารธารณภัยจังหวัดลพบุรี สรุปรวบรวมขั้นตอนเตรียมการทุกประเด็น และการคาดการณ์ปริมาณน้ำ โดยใช้ข้อมูลจากกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนต่อไป
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการทรงข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ