ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีเทิดพระเกียรติมหาราชา พระบิดาแห่งฝนหลวง พร้อมถวายสัตย์ปฏิญาณสืบสานพระราชดำริเนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 พล.อ.อ. จอม รุงสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีเทิดพระเกียรติ มหาราชา พระบิดาแห่งฝนหลวง และถวายสัตย์ปฏิญาณสืบสานพระราชดำริของหน่วยบินปฏิบัติการฝนหลวงกองทัพอากาศ เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ที่อากาศยาน 2 กองบิน 6 โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กำลังพล ข้าราชการ ลูกจ้าง สังกัดกองทัพอากาศ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
พล.อ.อ. จอม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เมื่อปี 2498 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ประทับพระที่นั่งเสด็จฯ ภาคอีสานเพื่อตรวจเยี่ยมราษฎรพบว่ามีความแห้งแล้งมากและทรงมีพระราชดำริว่าจะทำอย่างไรที่ใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์บังคับให้เมฆตกเป็นฝน ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้เข้าร่วมในโครงการพระราชดำริฝนหลวงมามากกว่า 40 ปี เนื่องจากเรามีเครื่องบินขนาดใหญ่ สามารถบินสูงและพร้อมที่จะได้รับการดัดแปลงเพื่อใช้ในฝนหลวงเพื่อตอบสนองพระราชดำริอย่างเต็มที่
สำหรับในวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ซึ่งถือเป็นวันสำคัญยิ่งในการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทย รวมถึงเป็นวันสำคัญที่จะเทิดพระเกียรติในพระปรีชาสามารถที่พระองค์ทรงคิดค้นศาสตร์และวิธีการสำหรับทำฝนหลวงจนสำเร็จเป็นรูปธรรม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้แก่พสกนิกรชาวไทย
ปัจจุบัน กองทัพอากาศได้สนองโครงการพระราชดำริฝนหลวง โดยจัดเตรียมอากาศยานจำนวน 12 เครื่อง นอกจากนี้ยังสนับสนุนฐานปฏิบัติการให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเตรียมความพร้อมไว้ทั่วประเทศ ทั้งหมด 10 กองบิน และโรงเรียนการบิน สำหรับเที่ยวบินและพื้นที่ปฏิบัติการฝนหลวงนั้นจะขึ้นอยู่กับการร้องขอจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติการบินฝนหลวงของกองทัพอากาศ โดยเฉลี่ยจะทำการบินปีละประมาณ 700 เที่ยวบิน ใช้สารฝนหลวงประมาณ 1,000 ตันต่อปี ใช้พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ปฏิบัติภารกิจยับยั้งพายุลูกเห็บ จำนวน 200 นัดต่อปี และพลุสารดูดความชื้น จำนวน 100 นัดต่อปี ซึ่งผลการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวประสบผลสำเร็จอย่างดี เป็นผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อน และปริมาณน้ำฝนในพื้นที่การเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก สามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งได้อย่างดียิ่ง
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam,