วันที่ 4 ก.ย.65 เวลา 10.00 น. ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก : พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม รอง ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก,พ.ต.อ.จักรพงษ์ เคนทวาย
ผกก.(สอบสวน)ฯ ปฏิบัติราชการ บช.ภ.6,พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว จากกรณีนายปฏิวัติ ไทยสม อายุ 31 ปี ชาว จ.พิษณุโลก บุตรชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้เสียหาย และเป็นอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง อายุ 56 ปี ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.สิตางค์ ทองรำพรรณ อายุ 46 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหา ว่าได้ลักโทรศัพท์มือถือของบิดาที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 ที่ผ่านมา เพื่อใช้เข้าถึงข้อมูลและทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน โอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียชีวิตเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาไปโดยทุจริต รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 15,790,000 บาท โดยเงินดังกล่าวนั้นเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายของผู้เสียชีวิต
คดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความน่าสนใจ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิด และติดตามทรัพย์สินคืนให้ผู้เสียหายโดยเร็ว จนสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอยู่ที่บ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงได้ยื่นขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ ค.306/2565 ลงวันที่ 1 ก.ย.65 เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 319/2565 ลงวันที่ 31 ส.ค.65 และตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว
ผลการตรวจค้นพบของกลาง เงินสด จำนวน 2,329,000 บาท,ทองคำแท่ง น้ำหนัก 10 บาท จำนวน 1 แท่ง มูลค่า 299,500 บาท,รถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียชีวิต,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง,สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 6 เล่ม,สำเนาเอกสารและทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนหลายรายการ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และวันที่ 2 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สืบสวนขยายผลจนรู้ที่ซ่อนของเงินสดส่วนที่เหลือและสามารถติดตามตรวจยึดเงินสดคืนได้ จำนวน 12,000,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหานำไปซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง ที่ช่องเก็บยางอะไหล่หลังรถยนต์มิตซูบิชิ สีเทา ที่จอดอยู่ภายในบ้านแห่งหนึ่ง ถนนประชาอุทิศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน