เมื่อเวลา 09.50 น.วันที่ 2 กันยายน 2565 ที่ สำนักงานตำรวจภูธร 2 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี “เดอะปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง.ผบ.ตร. พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจภูธร 2 เพื่อมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย การปฏิบัติราชการให้แก่ตร.ทุกหน่วยในสังกัด ตร.ภ.2 ก่อนอำลาตำแหน่ง ผบ.ตร.ในวันที่ 30 กันยายน 2565 โดยมี “บิ๊กจ้าว” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ว่าที่ ผบช.น.คนใหม่ พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง.ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง.ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง.ผบช.ภ.2 พร้อม ผบก.-ผกก.สังกันตร.ภ.2 ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก และ สืบสวน ภ.2 ร่วมให้การต้อนรับ
จากนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เข้าประชุมที่ห้องประชุมรอดบางยาง เพื่อมอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดตร.ภ.2 และมอบถุงยังชีพให้ ผบก.ในสังกัดตร.ภ.2 ไปมอบให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ได้เชิญ พล.ต.อ.สุวัฒน์ พร้อมคณะ ไปที่สนามฟุตบอลด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจ ภ.2 เพื่อชมการสาธิตแผนเผชิญเหตุในงานคอนเสิร์ต ของงานป้องกันปราบปราม 8 โรงพักสังกัด ตร.ภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งมี พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ รอง.ผบก.ชลบุรี เป็นหัวหน้าชุด และชมการสาธิตแผนเผชิญเหตุ สยบ ชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนไล่ยิงประชาชน ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการ ปพ.กองบังคับการสืบสวน ภ.2 มี พ.ต.ท.สุริยะ แจ้งโพธิ์นาค รอง.ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.2 เป็นหัวหน้าชุด
หลังจากเสร็จสิ้นการสาธิต พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้กล่าวกับตร.ชุดปฏิบัติการที่มาสาธิตแผนเผชิญเหตุว่า “วันนี้มากับสายฝน ได้เห็นการปฏิบัติที่เราพบเห็นบ่อย ๆ คือการจัดคอนเสิร์ต กับเรื่องคนคลุ้มคลั่งไล่ยิงประชาชน หลาย ๆคนพวกเราเข้าใจก็ต้องย้ำกัน เรื่องแรกงานคอนเสิร์ตโดยทั่วไป อาจจะไม่มีอาวุธที่ทำให้เสียชีวิต อาวุธที่มีความรุนแรง การตีกันจะยึดหลักตำรวจควบคุมฝูงชน ฉะนั้นพื้นฐานการปฏิบัติก็จะใช้อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ของการควบคุมฝูงชน โล่ กระบอง แก๊สน้ำตาโยน-ยิง ปืนลูกซองกระสุนยาง ปืนไฟฟ้า คืออาวุธที่ไม่ทำให้บาดเจ็บถึงแก่ชีวิต ในส่วนการเข้าไปเผชิญเหตุในเหตุการณ์งานคอนเสิร์ตผู้ปฏิบัติต้องหาความพอดีถ้ามันเสี่ยงเกินไปก็ต้องรอ แต่ถ้าพอทำได้ก็ต้องทำ เมื่อมีการตีกันฝั่งละ 10-20 คนเราต้องคุมสถานการณ์และรายงาน อย่างนี้ไปต้น ทุกอย่างสำคัญที่สุดคือต้องฝึก ถ้าไม่ฝึกไม่เกิดความมั่นใจ และต้องมีการเตรียมพร้อมให้มากที่สุดและต้องใช้อุปกรณ์ให้เป็นของหลายอย่างในโรงพักไม่ได้มีไว้ให้ดู มีไว้ให้ใช้ฉะนั้นต้องใช้ให้เป็น และสายตรวจโรงพักต้องท่องไว้ เวลามีเหตุอย่าไปคิดว่าใครจะมาช่วยเรา เขามาแต่มันไม่ทัน ฉะนั้นตำรวจโรงพักต้องทำได้ทุกอย่าง
ต้องคิดและระหว่างที่รอต้องรายงานไปด้วยว่าเหตุการณ์สถานการณ์เป็นอย่างไร ในส่วนการสาธิตการเข้าไปควบคุมคนคลุ้มคลั่ง อย่างการฝึกแอคทีฟชูตเตอร์ เรื่องข้อมูลที่ชุดปฏิบัติการต้องสอบถามจากผู้เสียหายเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องถามให้รู้แล้วถ่ายทอดข้อมูลให้กับชุดที่เข้าไปทำงานโดยละเอียด ส่วน แอคทีฟชูตเตอร์ คือการยิงคนโดยไม่ใช้เหตุผล เพราะถ้ายิ่งช้าคนก็จะตายเพิ่มขึ้น รอกันไม่ได้ โดยหลักแล้วคน 2 คนต้องเก่งกว่าคน ๆ เดียว เราเป็นฝ่ายเข้าทำ ต้องรู้หลักการ คอนแทคคัฟเวอร์ ใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ ข้อมูลจึงเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องกดคนร้ายให้อยู่ในพื้นที่ เพราะการที่ไม่รู้ว่าคนร้ายอยู่ที่ไหน คืออันตรายที่สุด การจะขยับกำลังแต่ละครั้งจะต้องมีการคัฟเวอร์กัน จะต้องทำอย่างไร ผู้ปฏิบัติหน้าที่จึงต้องหมั่นฝึกฝน หลังจากเสร็จสิ้นการชมการสาธิต พล.ต.อ.สุวัฒน์ พร้อมคณะ ผู้บังคับบัญชาตร.ภ.2 ได้ถ่ายภาพกับ ผบก.-ผกก.8 จังหวัดภาคตะวันออกและตร.กองบังคับการ.สส.ภ.2 และร่วมปลูกต้นไม้บริเวณ โครงการ “โคก หนองนา โมเดล ภ.2”
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้ได้มาตรวจเยี่ยม และดูการปฏิบัติงาน เป็นนโยบายที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้เรา ช่วงนี้มีเหตุค่อนข้างรุนแรงเกิดขึ้นก็ต้องมีการทบทวนเราจะใช้ยุทธวิธีอะไรในการรักษาความสงบเรียบร้อยเพิ่มขึ้น ในส่วนตร.ภ.2 ครั้งนี้ก็เป็นที่น่าพอใจและก็ได้ให้คำแนะนำกับตร.ผู้ปฎิบัติ ก็จะพยายามไปทุกที่โดยเฉพาะในพื้นที่ไหนที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ เราก็มีคณะทำงานของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง.ผบ.ตร.และพล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผช.ผบ.ตร.ก็มียุทธวิธีที่จะให้ความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้น”