(25 ส.ค.65)ที่อาคารรัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ดำเนินการกรณีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้าง ส่งมอบงานตามหนังสือลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เนื่องจากในวันดังกล่าว บริษัท ซิโน-ไทยฯ ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้ว่าจ้าง ว่าขอแจ้งส่งมอบงานงวดสุดท้ายแก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามสัญญาก่อสร้างเลขที่ 116/2556 ลงวันที่ 30 เมษายน 2556 ข้อ 35.1 และผนวก 9 เงื่อนไขทั่วไปของการก่อสร้างตามสัญญาข้อ 20.2 และตามที่อ้างถึงหนังสือของผู้รับจ้างลงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 แจ้งกลุ่มบริษัทผู้ควบคุมงาน ATTA ว่าผู้รับจ้างได้แก้ไขข้อบกพร่องและงานที่ยังไม่แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยครบถ้วนแล้ว จึงเห็นว่าเมื่อผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานงวดสุดท้ายแล้ว ผู้ว่าจ้างต้องรับการส่งมอบและตรวจรับงานตามสัญญาเท่านั้น และเมื่อพบข้อบกพร่องต้องแจ้งให้ผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามสัญญา อีกทั้งระยะเวลาที่ใช้ในการแก้ไขต้องดำเนินการปรับตามสัญญาวันละ 12.28 ล้านบาท เพราะเมื่อมีการส่งมอบงานแล้วจึงถือว่าสัญญาสิ้นสุด
ทั้งนี้ นายวิลาศ ยังได้ยื่นหนังสืออีก 1 ฉบับถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของไม้ที่ขึ้นในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง จากการลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเองตามข้อมูลที่อ้างถึงดังกล่าวจำนวน 3 รายจาก 18 ราย พบว่า เป็นข้อมูลเท็จทั้ง 3 ราย บางรายไม่ได้ซื้อไม้ตะเคียนทอง บางรายมีจำนวนที่ซื้อไม้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงซึ่งเป็นเท็จ บางรายเวลาที่ซื้อในเอกสารแตกต่างกันเกิน 3 ปี และบางรายอ้างว่าเอาไปทำวัตถุประสงค์อื่น ซึ่งแต่ละรายอาจเท็จหลายอย่าง จึงขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบทั้ง18 ราย และพิจารณาลงโทษตามกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในการยื่นเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
นายวิลาศ ย้ำว่า ได้ไปหาข้อมูลดังกล่าวในพื้นที่ด้วยตนเอง มีเทปบันทึกเสียง ภาพถ่าย และพยานบุคคลชัดเจน จึงขอให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นการเอาเอกสารมาสวมเป็นหลักฐานเท็จ
สำหรับหนังสือที่ยื่นร้องเรียนถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับความบกพร่องและเรื่องที่ส่อว่ามีการทุจริตอย่างมโหฬารในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของนายวิลาศ 2 ฉบับล่าสุดนี้นับได้ถึง 22 เรื่องแล้ว และคาดว่าจะมีการร้องเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขัดแย้งอย่างมากกับการประเมินผลงานของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยป.ป.ช.ที่ให้คะแนนว่าเป็นองค์กรที่มีความโปร่งใสและมีคุณธรรมมากที่สุดของประเทศ