นางแอนน์ แพทเทอร์สัน เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ผู้รับผิดชอบภูมิภาคตะวันออกกลาง
เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการฝ่ายต่างประเทศแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ
กรณีรัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ส่งนาวิกโยธินและผู้เชี่ยวชาญของกองทัพสหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือรัฐบาลอิรัก
วางแผนยุทธศาสตร์ ตอบโต้กลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ “รัฐอิสลามในอิรักและลีแวนต์”
(ไอเอสไอแอล) ซึ่งบุกยึดพื้นที่ 5 เมืองในภาคเหนือและภาคตะวันตกของอิรักอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ 360 นาย เดินทางถึงกรุงแบกแดดของอิรัก
เมื่อ 24 มิ.ย. ทำให้สถิติทหารอเมริกันในอิรักเพิ่มเป็น 560 นาย
อย่างไรก็ตาม นายดิ๊ก เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้อนุมัติการทำสงครามอิรัก
เมื่อปี 2546 เพื่อตามล่าอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ของอิรัก ให้สัมภาษณ์สื่อสหรัฐฯ
โจมตีนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายผิดพลาดที่สั่งถอนทหารอเมริกัน
ออกจากอิรักก่อนเวลา ทำให้กลุ่มก่อการร้ายเข้มแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่กองทัพอิรักสั่งระดม
กำลังโจมตีทางอากาศในเมืองบาอิจิ ที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ในอิรักซึ่งถูกกลุ่มไอเอสไอแอล
บุกโจมตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 35 ราย ส่วนนายลินด์ซีย์ แกรห์ม ส.ว.รัฐเซาท์แคโรไลนาของสหรัฐฯ
เรียกร้องรัฐบาลหารือแผนสกัดกลุ่มติดอาวุธในซีเรียเพื่อมิให้ส่งกำลังช่วยเหลือกลุ่มไอเอสไอแอลได้.