รองศาสตราจารย์ ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยนักศึกษาปริญญาเอก เข้า
ร่วมงานประชุมพืชสวนระดับนานาชาติ International Horticultural Congress (IHC2022) ซึ่งจัดขึ้น
ระหว่างวันที่ 14-20 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุม เมืองอ็องเฌ ประเทศฝรั่งเศส (Congress Center,Angers-France) โดยร่วมนำเสนองานวิจัยแบบปากเปล่า (Oral presentation) 3 เรื่อง และนำเสนอแบบอิเล็กทรอนิกส์โปสเตอร์ (E-Poster presentation) 1 เรื่อง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
Oral presentation
1) สตรอว์เบอร์รีลูกผสมใหม่ 2 สายพันธุ์ : การปรับปรุงพันธุ์สตรอว์เบอร์รีเพื่อเพิ่มปริมาณสารแอนโทไซยานินสำหรับการบริโภคTwo new hybrids strawberry cultivars : Breeding strawberry to increase fruits phytochemical contents for health consumption
สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ที่รู้จักกันทั่วโลก และในผลยังอุดมไปด้วยสารสำคัญที่เป็นประโชน์ต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารสีแดงในบริเวณผิวผล โดยสารนี้มีคุณสมบัติหลัก คือ เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยในป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง
ดังนั้นจึงทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการที่จะบริโภคผลสตรอว์เบอร์รีมากยิ่งขึ้น แต่ปัญหาหนึ่งพบว่า สตรอว์เบอร์รีในประเทศไทยที่ปลูกเป็นการค้ายังคงมีปริมาณสารแอนโทไซยานินที่ไม่สูงมากนัก ผู้วิจัยจึงเล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงได้ทำการปรับปรุงพันธุสตรอว์เบอร์รีเพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่มีปริมาณสารแอนโทไซยานิน ที่สูงขึ้น โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานตลอดโครงการทั้งสิ้น 5 ปี พบว่า สามารถคัดเลือกสตรอว์เบอร์รีลูกผสมทีมี ศักยภาพดังกล่าวได้ 2 ต้น (2 สายพันธุ์) โดยสตรอว์เบอร์รีลูกผสมสายพันธุ์ที่ 1 เกิดจากการผสมระหว่าง พันธุ์
พระราชทาน 80 และพันธุ์ 329 และสตรอว์เบอร์ รีลูกผสมสายพันธุ์ที่ 2 เกิดจากการผสมระหว่าง พันธุ์
พระราชทาน 80 และพันธุ์ Akihime จากการศึกษาวิจัยพบว่า สตรอว์เบอร์รีลูกผสมทั้ง 2 สายพันธุ์ มีลักษณะ
ดีเด่นกว่าสายพันธุ์พ่อแม่ โดยมีปริมาณสารแอนโทไซยานินทั้งหมดเฉลี่ย 41-52 mg/100g FW ปริมาณสารไซยานิดิน-3-กลูโคไซด์ และเพลาโกนิดิน-3ไกลโคไซด์เฉลี่ย 20-30 mg/ks FW และ 484-555 mg/kg FW
ตามลำดับ
นอกจากนี้สตรอว์เบอร์รีลูกผสมทั้ง 2 สายพันธุ์ยังคงมีปริมาณสารประกอบฟินอลิกทั้งหมดและ FRAP สูงเฉลี่ย 2131-2265 mg GAE/kg FW และ 22-24 mmol Fe2+/kg FW ตามลำดับ นอกจากนี้ลักษณะทางด้านเคมีกายภาพอื่นๆ ของสตรอว์เบอร์รีลูกผสมดังกล่าวยังคงดีกว่าสายพันธุ์พ่อแม่ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สตรอว์เบอร์รีลูกผสมทั้ง 2 สายพันธุ์สามารถเป็นทางเลือกใหม่ให้กับเกษตรกรในประเทศไทยปลูกเพื่อเชิงการค้าต่อไป
2)การศึกษาผลของรังสีเอกซ์และรังสีแกมมาต่อคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง Effects of X-ray and Gamma ray Irradiation on the Physico-chemical Qualities of Mango cv. Nam Doc Mai Si Thong (Mangifera indica L.) มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเป็นมะม่วงพันธุ์หลักที่ผลิตในประเทศไทย เมื่อสุกจะมีรสหวานเนื้อละเอียด และสีผิวสีทองสวยงามเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในต่างประเทศ แต่การส่งออกมะม่วงไปจำหน่ายยังบางประเทศนั้นจะต้องผ่านกรรมธีสุขอนามัยพืช เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะประเทศอเมริการจะต้องมีการฉายรังสีมะม่วงก่อนนำเข้า ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ส่งออกไทยประสบปัญหาการฉายรังสีมะม่วง แล้วผลมะม่วงสูญเสียคุณภาพ ไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากรรมวิธีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวก่อนการฉายรังสี และผลของรังสีที่มีต่อคุณภาพผลมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง โดยผลการทดลองพบว่า การคัดเลือกมะม่วงที่มีความแก่ 80% นำมาจุ่มน้ำร้อนร่วมกับสารป้องกันกำจัดเชื้อราก่อนการฉายรังสีตามข้อกำหนดการส่งออกสามารถควบคุมการเกิดโรคได้ตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา รวมทั้งผลมะม่วงเมื่อผ่านการฉายรังสีแล้วยืดอายุการเก็บรักษาได้นาน 12 วัน โดยที่คุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
3) อิทธิพลของบรรจุภัณฑ์ดัดแปลงบรรยากาศและการฉายรังสีแกมมาเพื่อยืดอายุการเก็บรักษามะม่วง
ไทยพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง
Integrated Effects of Modified Atmosphere Packaging and Gamma Irradiation on Shelf-
life Extension of Thai Mango cv. Nam Doc Mai Si Thong (Mangifera indica L.) มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีปริมาณการส่งออกเป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง
ซึ่งส่งออกไปยังหลากหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย เป็นต้น การส่งออกมะม่วงไปยังสหรัฐอเมริกาผลมะม่วงจะต้องผ่านการฉายรังสีตามข้อกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืช อย่างไรก็ตาม มะม่วงฉายรังสีนั้นมีอายุการเก็บรักษาสั้น (เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง) ประมาณ 7 วันส่งผลให้มะม่วงน้ำดอกไม้ไม่สามารถส่งออกไปยังตลาดปลายทางเป็นระยะเวลานานได้ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิธีการยืดอายุเก็บรักษาของมะม่วงฉายรังสีด้วยวิธีการดัดแปลงบรรยากาศ โดยใช้ถุงชนิด White Ethylene-absorbing Bag (WE B) พบว่ามะม่วงฉายรังสีบรรจุด้วยถุงชนิด WEB มีอายุการเก็บรักษาเพิ่มขึ้นเท่ากับ 24 วัน ขณะที่มะม่วงฉายรังสีไม่บรรจุถุงมีอายุต่ำกว่า 15 วัน ที่อุณหภูมิ 13-15 องศาเชลเซียส จึงสรุปได้ว่ามะม่วงฉายรังสีบรจุด้วยถุงชนิด WE B ชะลอกระบวนการสุกของผลมะม่วงน้ำดอกไม้
สีทองฉายรังสีได้เป็นอย่างดี และยังเป็นจุดเริ่มต้นในการนำไปประยุกต์ใช้ในการส่งออกทางเรือเชิงพาณิชย์
4) การตรวจสอบคุณภาพแบบไม่ทำลายผลผลิตและการศึกษาผลของการใช้กระบวนการแปรรูปด้วย
ความดันสูงต่อคุณภาพทางจุลชีววิทยา คุณสมบัติทางเคมี กายภาพของน้ำมะพร้าวน้ำหอม Non-destructive quality determination and effect of high-pressure processing on the
microbial and physicochemical quality of young aromatic coconut(Cocos nucifera L.) water. งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิธีการตรวจสอบคุณภาพมะพร้าวน้ำหอมโดยไม่ทำลายผลผลิต และพัฒนากระบวนการแปรรูปน้ำมะพร้าวน้ำหอมพร้อมดื่มด้วยกระบวนการความดันสูง (High Pressure
Processing; HIPP) ที่สามารถยับยั้งเชื้อก่อโรค และศึกษาอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษา ผลการศึกษาพบว่า เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโคปี (NIRs) สามารถนำมาใช้ในคัดแยกคุณภาพชั้นเนื้อและความหวาน (ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้) ของมะพร้าวน้ำหมได้โดยไม่ต้องทำลายผลผลิต มีความแม่นยำมากถึง 88%
ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการใช้ NI ในการเลือกวัตถุดิบตั้งต้นที่ดีในการผลิตน้ำมะพร้าวน้ำหอมพร้อมดื่ม
สำหรับการแปรรูปน้ำมะพร้าวน้ำหอมพร้อมดื่มด้วย HPP นั้น พบว่า การแปรรูปที่สภาวะความดัน 600 MPa
เป็นเวลา 3 นาที ที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเชียส มีประสิทธิภาพในการยับยั้งแบคที่เรียก่อโรคได้โดยไม่
ก่อให้เกิดเปลี่ยนแปลงต่อคุณภาพของน้ำมะพร้าว สามารถก็บรักษาได้ในอุณหภูมิ 2-5 องศาเซลเซียส นานมากกว่า 10 สัปดาห์
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน