(18 ส.ค.65)หลังจากที่นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตีแผ่10 ผลงานชิ้นโบว์ดำโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่เต็มไปด้วยความบกพร่องและส่อว่ามีการทุจริตอย่างมหาศาลไปเมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ที่อาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 17 ส.ค.65นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสืออีก 2 ฉบับถึงนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบการเดินสายไฟใต้สนามภายนอกอาคารรัฐสภา เนื่องจากมีไฟประดับภายนอกอาคาร อุปกรณ์ไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าอยู่จำนวนมาก จึงมีการเดินสายไฟใต้สนามภายนอกอาคารจำนวนมากด้วย ขณะนี้มีผู้ร้องเรียนพร้อมภาพถ่ายว่ามีการเดินสายไฟผิดไปจากแบบอย่างชัดเจน เพราะในแบบต้องเดินสายไฟลึกใต้พื้น 40 ซม. แต่จากภาพถ่ายที่ได้รับมีการเดินสายไฟลึกประมาณ 10 ซม.เท่านั้น ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดไปจากแบบและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะกรณีที่มีการขุดสนามเพื่อปลูกต้นไม้ จึงควรขุดสนามตรวจสอบและหาผู้รับผิดชอบ เพื่อพิจารณาโทษต่อไป แต่หากยังเพิกเฉยก็จะร้องเรียนหน่วยงานกลางเพื่อขุดพิสูจน์ในโอกาสต่อไป
ส่วนหนังสืออีก 1ฉบับนายวิลาศ ได้ขอให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบกรณีผู้รับจ้างทำผิดสัญญาให้ผู้รับจ้างช่วงติดตั้งเสาไฟ L03 จำนวน 97 ต้นที่ภายหลังการติดตั้งมีการกล่าวหาเรื่องเสาไฟไม่เป็นไปตามแบบ กลายเป็นข้อถกเถียงกันอยู่หลายเดือน แต่ท้ายที่สุดคณะกรรมการตรวจการจ้างมีมติให้แก้ไขเสาไฟให้ถูกต้องตามแบบ และได้แก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่มีข้อกล่าวหาว่าผู้ดำเนินการติดตั้งเสาไฟและแก้ไขเป็นบริษัทผู้รับจ้างช่วงโดยมีข้อกล่าวหาคือ
1.ในขณะทำ Mock up มีผู้ร่วมสังเกตุการณ์คือ ผู้ออกแบบ , กลุ่มบริษัทผู้ควบคุมงาน ATTA , กลุ่มที่ปรึกษา CAMA ผู้ที่ทำหน้าที่ติดตั้งคือ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) โดยมีนายเสวก ศรีสุชาต เป็นประธานกรรมการบริหารบริษัท
2.ภายหลังมีมติให้แก้ไขแบบเสาไฟ ผู้ที่ดำเนินการแก้ไขเป็น บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เช่นเดิม
จึงขอให้ตรวจสอบว่าบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ถือเป็นผู้ชำนาญการเฉพาะใช่หรือไม่ มีการแจ้งเรื่องจ้างช่วงกับผู้ว่าจ้างหรือไม่ มีการทำผิดสัญญาข้อ 11 หรือไม่ รวมทั้งให้พิจารณาว่ากลุ่มบริษัท ATTA และ CAMA ซึ่งยืนยันว่าไม่มีผู้รับจ้างช่วง เป็นการให้ข้อมูลเท็จหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และที่น่าสังเกตคือ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)แห่งนี้ยังเป็นผู้ก่อสร้างอาคารส่วนต่อขยายอาคาร 1 สนามบินดอนเมือง สำหรับบริการนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ ที่ถูกพายุฤดูร้อนถล่มพังเสียหาย เมื่อเย็นวันที่ 18 เม.ย.65 และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยยังได้เซ็นสัญญากับ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ที่คลองสาน กทม.วงเงิน 5,574 ล้านบาทแล้วเช่นกัน
สำหรับ 2 เรื่องล่าสุดที่นายวิลาศได้ยื่นให้นางพรพิศตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้ นับได้ถึง 20 เรื่องแล้ว และคาดว่ายังมีจุดบกพร่องที่จะต้องตรวจสอบต่อไปอีกจำนวนมาก