เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้านว่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถในการวางโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ก่อนหน้านี้เราคาดว่าจะเริ่มต้นโครงการดังกล่าวได้ในช่วงกลางปี 2559 แต่เมื่อยังเริ่มต้นไม่ได้ก็ต้องมาดูปัญหา เพื่อแก้ไขให้บรรลุวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีปัญหาความซ้ำซ้อนในเรื่องของพื้นที่ แต่จากการประชุมครั้งล่าสุดเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบยืนยันไม่มีที่ซ้ำซ้อน
“คณะกรรมการเตรียมความพร้อมดิจิทัลเศรษฐกิจเพื่อสังคม เห็นชอบให้โอนงบประมาณในโครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน 1.5 หมื่นล้านบาท ให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ดำเนินการ และในส่วนที่เป็นเคเบิลใต้น้ำอนุมัติให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท ดำเนินการ โดยทั้ง 2 ส่วนนายกฯได้ตั้งคณะทำงานโดยมีนางวิไลลักษณ์ เป็นประธาน จากนั้นจะกำหนดแนวทางและติดตามความพร้อม โดยจะเริ่มประชุมในสัปดาห์หน้า” พล.อ.อ.ประจินกล่าว
พล.อ.อ.ประจินกล่าวต่อว่า โครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน มีทั้งหมด 7 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศ ในส่วนที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม มีโซนเอและโซนบี ส่วนโซนซีและโซนซีบวก มีจำนวน 40,432 หมู่บ้าน โดย 24,700 หมู่บ้าน แยกให้บริษัททีโอทีดำเนินการ ที่เหลืออีก 15,732 หมู่บ้าน ให้กสทช.ดำเนินการ โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะกำกับดูแลเพื่อให้เกิดความโปร่งใส งบประมาณไม่รั่วไหล หรือเกิดการทุจริตขึ้น และภายในวันที่ 25 ธันวาคม จะต้องมีข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับบริษัทผู้ให้บริการ ส่วนระบบเคเบิลใต้น้ำคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน เพราะต้องเชื่อมต่อทั้งภายในและภายนอกประเทศ และมีเป้าหมายเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งศึกษาการเชื่อมต่อกับประเทศจีนและอินเดีย โดยเบื้องต้นจะเชื่อมต่อจากประเทศสิงคโปร์ก่อน
Cr: มติชน