Wen Weiru ได้เขียนบทความลงในเว็บไซต์ chinamil.com.cn เกี่ยวกับแผนการของญี่ปุ่นในการพัฒนาและปรับใช้ขีปนาวุธ โดยอ้างถึงสื่อญี่ปุ่นที่รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งตัดสินใจติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านเรือรบซึ่งยังอยู่ระหว่างการพัฒนาในปี 2023 (พ.ศ.2566) ซึ่งเร็วกว่าแผนปี 2026 (พ.ศ.2569) ถึงสามปี ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ตีความว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเร่งดำเนินการของญี่ปุ่นเพื่อทำลายข้อจำกัดในการพัฒนาทางทหาร
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นกำลังเสริมกำลังการจู่โจมระยะกลาง โดยใช้ขีปนาวุธที่เป็นรุ่นดัดแปลงจากขีปนาวุธต่อต้านเรือประเภท 12 ซึ่งเป็นอาวุธที่เริ่มการวิจัยและพัฒนาในปี 1992 (พ.ศ.2535) และเริ่มใช้งานในปี 2015 (พ.ศ.2558) ซึ่งขีปนาวุธดังกล่าวมีความยาว 5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 350 มิลลิเมตร มีน้ำหนักประมาณ 700 กิโลกรัม มีความเร็วสูงสุด 0.9 Mach และมีระยะการยิงสูงสุด 200 กิโลเมตร แต่เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นไม่พอใจกับระยะ 200 กิโลเมตร จึงตัดสินใจในเดือนธันวาคม ปี 2020 (พ.ศ.2563) ที่จะวางโปรแกรมเพื่ออัพเกรดขีปนาวุธเพื่อให้ใช้ในได้ภายในปี 2026 (พ.ศ.2569) โดยปรับใน 3 ประการ ได้แก่
ประการแรก การเพิ่มระยะการยิงของขีปนาวุธ โดยเป้าหมายเริ่มต้นคือการเพิ่มระยะยิงเป็นสองเท่าเป็น 400 กิโลเมตร และเป้าหมายในระยะยาว จะมีแผนจะไปถึง 900 กิโลเมตร และ 1,500 กิโลเมตร ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสำหรับขีปนาวุธพิสัยกลาง
ประการที่สอง การขยายแพลตฟอร์มการเปิดตัว ในปัจจุบัน ขีปนาวุธต่อต้านเรือประเภท 12 ถูกปล่อยจากฐานยิงบนบก แต่ญี่ปุ่นต้องการพัฒนาขีปนาวุธที่ใช้ทางทะเล ทางอากาศ และแม้แต่เรือดำน้ำ
ประการที่สาม การเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตีของขีปนาวุธ ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ Type-12 ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อโจมตีเป้าหมายในทะเล หลังจากอัพเกรดแล้ว มันคือขีปนาวุธนำวิถีจากเรือที่มุ่งเป้าไปที่วัตถุบนบก และสามารถโจมตีท่าเรือหรือจุดปล่อยขีปนาวุธของศัตรู ทำให้เกิดความสามารถในการโจมตีฐานของศัตรู
โดยญี่ปุ่นมีความคาดหวังที่จะบรรลุวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ดังต่อไปนี้คือ
1. เพื่อเติมเต็มช่องว่างในการป้องกันและโจมตีระยะกลาง ก่อนที่ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกจะได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่
2. เพื่อหาโอกาสที่จะทำลายข้อจำกัดในการพัฒนาทางทหารของตน ซึ่งก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ โดยอ้างถึงสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อนและภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงต่อภูมิภาคนี้ แต่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงเพื่อปูทางสำหรับการยกเลิกการจำกัดความแข็งแกร่งทางทหาร
3. เพื่อเป็นการประกาศพันธมิตรทางทหารต่อโลกภายนอก จากการที่ญี่ปุ่นประสานงานการวางกำลังทหารของสหรัฐฯ ในขณะที่กองทัพสหรัฐฯ ได้ปรับการวางกำลังในแปซิฟิกตะวันตก โดยญี่ปุ่นยังคงกระชับการประสานงานเชิงยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯ แต่จะไม่ใช้ความพยายามใด ๆ ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวประกันใน “ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” ของสหรัฐฯ
สรุปโดย พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://eng.chinamil.com.cn/view/2022-08/12/content_10177844.htm )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเส้นทางสายไหม
16/8/2022