แต่วันนี้ ปัญหาที่ว่าจะหมดลง เพราะมีนวัตกรรมใหม่ใช้ตรวจผลสุกของทุเรียนได้แล้ว
ทุเรียนเป็น “King of Tropical Fruit หรือ ราชาของผลไม้เมืองร้อน” จัดเป็นไม้ผลเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากและมีมูลค่าการส่งออกสูง มีการปลูกแทบทุกภาคของประเทศ นอกจากบริโภคภายในประเทศแล้วยังมีการส่งออกทุเรียนสดไปยังต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา,จีน,ฮ่องกง และไต้หวัน เป็นต้น ทั้งนี้เทคโนโลยีการเก็บเกี่ยวมีความจำเป็นมากสำหรับชาวสวนทุเรียน เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีเปลือกหนา ความสุกแก่ดูได้ยากจากภายนอก เป็นต้นสาเหตุให้เกิดปัญหาว่าพบทุเรียนอ่อนในการซื้อขาย เนื่องจากความชำนาญเฉพาะบุคคลในการคัดแยกความสุกแก่ของทุเรียนแต่ละผล ทำให้ไม่ได้มาตรฐานและไม่สามารถรับประกันคุณภาพของผลผลิตได้ ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของตลาด และไม่มีมาตราฐานที่สากลยอมรับ
โดยล่าสุด ผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์เกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ทำการวิจัยตรวจสอบคุณภาพทุเรียนหมอนทองแบบไม่ทำลายผลิตผล โดยใช้เทคนิคเนียร์อินฟราเรดสเปคโทรสโกปี (Near Infrared Spectroscopy ; NIRS) ในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อการส่งออก ภายใต้ทุนวิจัยของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ซึ่งเทคนิคเนียร์อินฟราเรดสเปคโทรสโกปี (Near Infrared Spectroscopy) เป็นวิธีที่สามารถใช้ประเมินคุณภาพทุเรียนหมอนทองแบบไม่ทำลายผลิตผล จะสามารถบอกถึงคุณภาพภายในผลทุเรียนหมอนทอง เช่น ความสุกแก่ และความหวานของเนื้อทุเรียน ทำให้สามารถคัดเกรดทุเรียนหมอนทองที่มีคุณภาพดีและมีมาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาดภายในประเทศ และต่างประเทศถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และเชื่อถือได้
ทั้งนี้ หากปัญหาของคุณภาพผลผลิตทุเรียนหมอนทองได้รับการแก้ไข จะเป็นการเพิ่มมูลค่าผลิตผล และรายได้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนเพิ่มศักยภาพของทุเรียนหมอนทองในการส่งออกไปยังต่างประเทศเพื่อการพาณิชย์ อันจะส่งผลดีต่อการพัฒนาภาพรวมทางเศรษฐกิจและช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรของประเทศไทยอีกทางหนึ่ง
ผศ.ดร.พีระศักดิ์ฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ เรามีการคิดค้นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถยืดอายุไม่ให้เน่าเสียได้นานถึง 27 วัน ซึ่งทำให้สามารถส่งทุเรียนไปขายในต่างประเทศได้มากขึ้น
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน