วันนี้ (1ส.ค.65) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันนี้ได้เกิดฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงในพื้นที่กทม.แล้วก็ไม่เกินความคาดหมายที่อาคารรัฐสภาที่มีมูลค่าการก่อสร้างแพงสุดๆจากเงินภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศถึง 12,280 ล้านบาท จะต้องมีน้ำรั่วจากฝนที่ถล่มทุกครั้ง จนกลายเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อเรื้อรังหาสร้างความอับอายไปทั่ว จากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน แม้จะมีการยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึงผู้รับผิดชอบหลายครั้งแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ล่าสุด มีน้ำรั่วจากชั้น5 ไหลตามมุมผนังลงมาจนถึงชั้น 1 ต้องมีการระดมกำลังแม่บ้านมาเช็ดถูพื้นที่ที่ถูกน้ำฝนรั่วลงมาที่บริเวณชั้น 1ของอาคาร และที่น่าเอน็จอนาจใจอย่างมากกับผู้พบเห็นคือ มีการนำกาละมังพลาสติกสีดำมารองรับน้ำและใช้ผ้าห่มมาซับเป็นเขื่อนกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้ไหลเข้าไปภายในตัวอาคาร ถือเป็นการแก้ปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่มีการวางแผนและตั้งใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
นายวัชระ กล่าวว่า สำหรับเหตุน้ำรั่วในอาคารรัฐสภา ได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เช่นเมื่อเวลาประมาณ 18.00น.วันที่ 1 ก.ค.65 นิทรรศการ 90 ปีรัฐสภาที่จัดบริเวณพื้นไม้ชั้น 1 อาคารรัฐสภาถูกลมพัดและน้ำฝนสิ่งของล้มระเนนระนาด แล้วยังมีจุดรั่วอีกหลายสิบจุด โดยที่ยังไม่มีการแก้ไขมาจนถึงวันนี้ ที่น่าเป็นห่วงก็คือความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ในอาคารอาจถูกสิ่งของตกลงมาโดนหรือไม่ก็อาจเดินลื่นล้มหัวฟาดพื้นบาดเจ็บหรืออาจถึงชีวิตได้ รวมทั้งอาจเกิดไฟฟ้ารั่วลัดวงจรขึ้นมาก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ จึงอยากให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบอย่าทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ควรเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะท่านอาจจะไม่อาย แต่พอฝนตกครั้งใดแล้วเกิดเหตุแบบนี้ ตนรู้สีกละอายแทนทุกที