รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)แจ้งว่า ที่ผ่านมา รฟม.ได้ประกาศเชิญชวนเข้าร่วมคัดเลือกเป็นผู้รับสัมปทานงานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมระบบเครื่องกลและไฟฟ้า รวมทั้งงานให้บริการการจัดการเดินรถและบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ตั้งแต่ระหว่างวันที่ 6 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2559 โดยมีเอกชนสนใจติดต่อขอซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนฯ สายสีชมพู จำนวน 16 ราย สายสีเหลือง จำนวน 17 ราย
ทั้งนี้ในวันที่ 7 พฤศจิกายน รฟม.ได้กำหนดเปิดรับซองข้อเสนอ ปรากฏว่า มีบริษัทยื่นซองข้อเสนอการร่วมลงทุน จำนวน 2 ราย ดังนี้ 1.กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ2.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม
สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 จะพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอและเปิดซองข้อเสนอ ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ในการดำเนินการประเมินผลข้อเสนอ และเจรจาต่อรองกับเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบ คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ประมาณเดือนเมษายน 2560
อย่างไรก็ตามสัญญาสัมปทานของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เป็นโครงการในรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม.ลงทุนด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางโยธา ระบบเครื่องกลและไฟฟ้า(รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการการจัดการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าบริการ(PPP Net Cost) ซึ่งมีระยะเวลาสัมปทาน 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1: งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมระบบเครื่องกลและไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2: งานให้บริการด้านบริหารจัดการการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีวงเงินลงทุนรวม 53,519.50 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีวงเงินลงทุนรวม 51,931.15 ล้านบาท รวม 2 สาย มูลค่ารวม 105,450.65 บาท
Cr: มติชน