ศาลแขวงสมุทรปราการ พิพากษาจำคุก ‘เสี่ยเปี๋ยง’ คนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ รวม 6 ปี
ปรับ 12,000 บาท คดียักยอกข้าวกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่เจ้าตัวเตรียมยื่นอุทธรณ์
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2557 ที่ศาลแขวงสมุทรปราการ ได้ตัดสินคดียักยอกข้าวสาร
คดีหมายเลขดำที่ 6264/2551ระหว่างพนักงานอัยการคดีศาลแขวงสมุทรปราการ โจทก์
กับบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด จำเลย และอัยการคดีศาลแขวงสมุทรปราการ โจทก์
กับนายอภิชาติ หรือเสี่ยเปลี๋ยง จันทรสกุลพร จำเลย ให้จำคุก 6 ปี และสั่งปรับ
บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด เป็นเงิน 12,000 บาท
ทั้งนี้จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2550 เวลา ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2550 กรมการค้าต่างประเทศ
กระทรวงพานิชย์ ผู้เสียหายได้ส่งมอบข้าวสารขาว จำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 20,000 ตัน
ให้กับบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดยมีนายอภิชาติ หรือเสี่ยเปลี๋ยง จันทรสกุลพร อายุ 57 ปี
รับทราบด้วยให้ปรับปรุงเป็นข้าวสาร 100 เปอร์เซ็นต์ ส่งลงเรือไปยังรัฐบาลอิหร่าน เมื่อถึงเวลา
วันที่ 8 มิถุนายน 2550 – 2 กันยายน 2550 ทางด้านบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด
และนาย อภิชาติ หรือเสี่ยเปลี๋ยง จันทรสกุลพร ไม่ได้มีการส่งมอบข้าวสารดังกล่าวให้กับทาง
รัฐบาลอิหร่านทั้งที่รัฐบาลอิหร่านได้นำเรือมาจอดรอรับข้าวสารขาวที่บริเวณท่าเรือ ซึ่งจำเลยทั้งสอง
ได้มีการเบียดบังเอาข้าวสารขาว 5 เปอร์เซ็นต์ รวม 16,400 ตัน ราคา 175,480,000 บาท
เป็นของจำเลยทั้งสองเสียเอง โดยเหตุเกิดที่ตำบลสำโรงกลาง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
โดยศาลได้ตัดสินตามประมวลอาญา มาตรา 83, 352 และนับโทษจำเลยทั้งสอบคือบริษัทและ
นายอภิชาติร่วมกันให้คืนทรัพย์สินของกรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพานิชย์ หรือชดใช้แทน
ในราคา 175,480,000 บาท รวมทั้งค่าเสียหายอื่นอีกรวมกว่า 200 กว่าล้านบาท
ด้านนายอวิรุทธ์ ชาญชัยกิตติกร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงสมุทรปราการ เปิดเผยว่า คดีนี้
ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายอภิชาติ เป็นกรรมการบริษัท มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท
แต่เพียงผู้เดียว แสดงว่าอำนาจของ บริษัทเพรสสิเด้นท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด อยู่ในความควบคุม
ของนายอภิชาติ โดยจะเห็นได้จากการที่บริษัทเพรสสิเด้นท์อะกริ เทรดดิ้งจำกัด รับมอบข้าวสาร
จากกรมการค้าต่างประเทศ โดยมีนายอภิชาติ เป็นผู้ลงชื่อให้พนักงานบริษัทรับข้าวสารแทน
และปรับปรุงคุณภาพข้าว
ประกอบกับนางอภิรดี ตันตาภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ สมัยนั้น ยืนยันว่า นายอภิชาติ
เป็นผู้ติดต่อกับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อขอเข้าปรับปรุงคุณภาพข้าว ดังนั้น นายอภิชาติ
ย่อมต้องมีส่วนรู้เห็น ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่า ไม่มีเจตนากระทำผิดนั้น เป็นเพียงคำเบิกความลอยๆ
ไม่น่าเชื่อถือ ศาลจึงพิพากษาให้บริษัทเพรสสิเด้นท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด และนายอภิชาติ
มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก โดยให้ลงโทษ
ปรับบริษัทเพรสสิเด้นท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด สองสำนวน สำนวนละ 6,000 บาท รวมเป็นเงิน
12,000 บาท และให้จำคุกนายอภิชาติ สองกระทง กระทงละ 3 ปี รวม 6 ปี โดยให้จำเลยทั้งสอง
ร่วมกันคืนข้าวสารแก่ผู้เสียหาย ภายหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษา นายอภิชาติ ได้ใช้หลักทรัพย์
เป็นเงินคดีละ 1 ล้านบาท รวมเงินประกัน 2 ล้านบาท ยื่นประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
ทั้งนี้นายอภิชาติถือได้ว่าเป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี