ทนายอนันต์ชัย”แม่ทัพทนายกองทัพธรรม พร้อม เจ้าอาวาสวัดเขาปกล้น แจ้งความเอาผิดคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่-เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บุกวัดบังคับให้สึก
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2565เวลา 11.00 น. ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมด้วย ทนายเกษม เอี่ยมทัศน์, ทนายจักรกริสน์ เอี่ยมสิทธิ์,ทนาย ร.ต.ต.จุฬากรณ์ ชุติสรณ์กฤติธี,พรหมพิริยะ ยสพันธ์ และ “ดร.พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร” เจ้าอาวาสวัดเขาปกล้น จ.ลพบุรี ขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นนำกำลังกว่า 30 คน บุกวัดบังคับให้สึก โดยกล่าวหาว่า เป็นพระปลอม
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
ในฐานะแม่ทัพทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย ทีมทนายกองทัพธรรม และ ดร.พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดเขาปกล้น ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บ้านหมี่ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าคณะตำบลบ้านชี ,เจ้าคณะอำเภอบ้านหมี่ และเจ้าหน้าที่ส่วนปกครองท้องถิ่น หลังนำกำลังกว่า 30 คน บุกวัดเข้ามาบังคับ ดร.พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร ลาสิกขาบท ฐานไม่มีใบสุทธิของสงฆ์
โดยทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ตนเองได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ดร.พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร ว่าถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่น และพระสงฆ์ นำกำลังกว่า 30 คน บุกเข้ามาในวัดเขาปกล้น เพื่อบังคับให้ ดร.พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร สึก โดยกล่าวหาว่าเป็นพระปลอม เพราะว่าไม่มีใบสุทธิยืนยันความเป็นพระสงฆ์ แต่ ดร.พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร ได้นำบัตรประชาชนให้ตรวจสอบสถานะ
พร้อมทั้งใบประกาศแต่งตั้งให้เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูปลัด มายืนยัน แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับไม่เชื่อ อีกทั้งไม่มีการตรวจสอบตามที่พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร ร้องขอ พร้อมทั้งระบุว่า หากเป็นพระจริงให้นำใบสุทธิมายืนยันภายใน 7 วัน ก่อนบังคับให้ ดร.พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร ลงลายมือชื่อยินยอมสึก จึงถือว่าเป็นการทำผิดกฎของมหาเถรสมาคม เพราะจะต้องมีหนังสือร้องเรียนเข้ามาก่อน แต่กรณีนี้ไม่ได้มีการร้องเรียนเข้ามาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังส่งหนังสือสนเท่ห์ที่อ้างว่าชาวบ้านในพื้นที่บ้านชีร้องเรียนมา แต่เอกสารฉบับนี้ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นการทำหนังสือขึ้นหลังจากนำกำลังบุกเข้ามา จึงถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
หาเถรานุวัตร กล่าวหา อาตมาได้จำพรรษาที่วัดเขาปกล้น มานานกว่า 20 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้ถูกกลั่นแกล้งร้องเรียนให้เสียหายต่างๆ นานา แต่ที่ผ่านมาไม่เคยแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ แต่ครั้งนี้อยากให้ผู้ที่กระทำผิดนั้นได้รับโทษบ้าง ส่วนเรื่องใบสุทธินั้น อาตมาถูกเจ้าคณะอำเภอรูปก่อนเก็บไว้แล้วเกิดสูญหาย อาตมาจึงได้ขอทำใหม่แล้ว แต่ติดตรงที่เจ้าคณะอำเภอรูปปัจจุบันไม่ยอมเซ็นให้ แถมยังเอาเรื่องนี้มาเป็นเหตุขู่บังคับให้อาตมาเซ็นชื่อลาสิกขาบทอีกด้วย
ทั้งนี้ ทนายอนันต์ชัย ได้มอบหมายให้ทนายกองทัพธรรมประจำจังหวัดลพบุรี เป็นตัวแทน ดร.พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนดังกล่าวในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ,กระทำการบังคับขู่เข็ญขืนใจให้ผู้อื่นจำยอม และหมิ่นประมาท” เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ ได้รับเรื่องไว้ ก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ไพรัตน์ ทองแก้ว
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ