(6ก.ค.65) ที่อาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 13.04 น. นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ ประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ ขอทราบผลการประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ เมื่อคราวประชุมครั้งที่ 21/2565 วันจันทร์ที่ 4 ก.ค.65 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการหมายเลข CB 303 ชั้น 3 อาคารรัฐสภาโซนกลาง โดยมีระเบียบวาระพิจารณาการตรวจรับงานแล้วเสร็จ 100% ของบริษัท ซิโน-ไทยฯ ซึ่งก่อนการประชุมดังกล่าว ตนได้ยื่นหนังสือที่งานสารบรรณ เลขที่รับ 8396/2565 ลงวันที่ 4 ก.ค.65 เวลา 13.10 น. และตามหนังสือที่อ้างถึง 3 ที่งานสารบรรณ เลขที่รับ 8401/2565 ลงวันที่ 4 ก.ค.2565 เวลา 13.14 น. และส่งหนังสือถึงนายสาธิตด้วยตนเองที่บริเวณที่นั่งประชุมเมื่อ เวลา 13.29 น.โดยมีนายอุทัย อินทสมบัติ ฝ่ายเลขานุการฯ เป็นผู้รับหนังสือแทน และนายสาธิตได้สั่งการให้บรรจุเรื่องที่ยื่นเป็นหนังสือนี้ในการประชุมครั้งต่อไปฉับพลันในทันที ซึ่งนายวัชระได้แสดงความขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
นายวัชระ กล่าวว่า บัดนี้ผ่านมา 2 วันแล้วจากการประชุมแล้วเสร็จ คณะกรรมการตรวจการจ้างฯ ยังไม่แถลงข่าวรายละเอียดต่อสาธารณชนว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบการส่งมอบงาน 100% ของบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ทำให้เกิดความสงสัยแก่สาธารณชนเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ตนได้ทราบจากผู้เข้าร่วมประชุมว่าบริษัทผู้ควบคุมงาน (ATTA) ได้ยื่นเสนอที่ประชุมว่าการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จโดยนำเสนอข้อเท็จจริงต่าง ๆ และรูปถ่ายงานก่อสร้าง ทำให้นายสาธิตถึงกับอุทานด้วยความตกใจกลางที่ประชุมว่า “ทำไมเละขนาดนี้” ที่ประชุมจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับงานและให้บริษัทผู้ควบคุมงาน ไปสรุปงานก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จ งาน defect งานที่ยังไม่ได้ทำทั้งหมดเพื่อแจ้งให้บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้และที่ประชุมคณะกรรมการฯ พิจารณาต่อไป
นายวัชระ ยังได้เตือนคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ ด้วยความห่วงใยว่า การแถลงข่าวผลการประชุมของคณะกรรมการตรวจการจ้างฯในเรื่องนี้ขอให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงและผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยหรือไม่ จึงขอให้รีบแถลงข่าวมติที่ประชุมของคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ ต่อสาธารณชนที่ห้องแถลงข่าวของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็วที่สุด อย่าเป็นเพียงส่งใบแถลงข่าวเท่านั้น เพราะสื่อมวลชนต้องการซักถามเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากโครงการก่อสร้างฯ เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำนวน 12,280 ล้านบาท และเป็นที่สนใจของประชาชนทั้งประเทศในขณะนี้ เพราะต้องจ่ายค่าปรับวันละ 12,280,000 บาท ทุกวันตั้งแต่วันผิดสัญญาเมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 นับถึงวันนี้เป็นเวลา 552 วัน คิดเป็นเงินค่าปรับเข้ารัฐ (เงินรายได้แผ่นดิน) จำนวน 6,778,560,000 บาท โดยเงินค่าปรับจะเพิ่มไปเรื่อยๆอย่างไม่มีกำหนด จนกว่างานก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว100 % จริงๆ