นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ(กทบ.) เมื่อวันที่ 3 พ.ย. อนุมัติให้เพิ่มทุนให้กับกองทุนหมู่บ้านและกองทุนชุมชนเมืองตามแนวทางการเพิ่มทุนระยะที่ 3 ทั้งหมด 1,562 แห่ง กองทุนละ 1,000,000 บาท รวมเป็นเงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 1,562 ล้านบาท
ทั้งนี้หลังการเพิ่มทุนระยะที่ 3 ในส่วนนี้ไปแล้วจะทำให้เหลือกองทุนฯ ที่ยังไม่ได้เพิ่มทุน 10,937 แห่ง ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง(สทบ.) ไปจัดกลุ่มกองทุนที่เป็นกลุ่มเอถึงกลุ่มเอฟ เพื่อดำเนินการสำหรับการฟื้นฟูกลุ่มที่มีปัญหาโดยเฉพาะกลุ่มเอฟ ซึ่งขณะนี้คาดว่ากลุ่มที่มีฐานะน่าเป็นห่วงจะมีอยู่ประมาณ 5,800 แห่ง ซึ่งการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูนี้จะต้องเป็นรูปธรรมภายใน 3-5 เดือน
นายสุวพันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม กทบ. อนุมัติให้ตั้งกองทุนเมืองเพิ่มอีก 4 แห่ง ประกอบด้วยกองทุนเมืองในจ.นนทบุรี จ.นครปฐม และจ.กรุงเทพฯ 2 แห่ง ซึ่งทั้ง 4 แห่งจะได้รับทุนให้ไปดำเนินการตั้งกองทุนแห่งละ 1 ล้านบาท ซึ่งหลังอนุมัติครั้งนี้แล้วจะทำให้มีกองทุนหมู่บ้านและกองทุนเมืองทั้งสิ้น 79,570 แห่ง นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ สทบ. ดำเนินการลงนามร่วมกับองค์การอาหารและยา(อย.) เพื่อจัดทำหลักสูตรเพื่อให้ความรู้สมาชิกกองทุน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในกรณีที่สมาชิกต้องการที่จะผลิตสินค้าทั้งเกี่ยวกับอาหารและยานั้นจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ผ่านมาตรฐาน อย. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพการอีกทางหนึ่ง
ด้านนายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการ สทบ. กล่าวว่าจากกองทุนที่ยังไม่ได้รับเพิ่มทุนระยะที่ 3 ทั้งหมด 10,093 แห่นั้น มีประมาณ 5,800 แห่งที่มีปัญหาและต้องดำเนินการฟื้นฟู ส่วนที่เหลือนั้นสามารถแก้ไขปัญหาภายในได้ด้วยตนเองและสามารถรอรับการเพิ่มทุนได้ ส่วนกลุ่มที่มีปัญหานั้นหลักๆ ที่ประชุม กทบ. ครั้งนี้ได้มอบหมายแนวทางดำเนินการให้เครือข่ายกองทุนฯ ทั่วประเทศเข้าไปประกบรายกองทุนเพื่อหาว่าปัญหาอยู่ส่วนใหญ่ พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขเข้ามา โดยให้ดำเนินการภายใน 2 เดือน หรือเสนอให้คณะกรรมการ กทบ.อนุมัติภายในเดือน ธ.ค. เพื่อดำเนินการมาตรการพิเศษกับทั้งหมดได้ตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นไป