เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 4 พ.ย. ที่ชั้น 10 โรงพยาบาลวิชัยยุทธ นักแสดง-ผู้กำกับ ‘หนุ่ม’ อรรถพร พร้อมภรรยา ฝ้าย-อริญรดา ธีมากร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวหลังคลอดลูกชายคนที่ 2 ชื่อว่า “น้องอดัม-ธนพิสิฐ” เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากมีอาการเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ
โดย ฝ้าย เผยว่า “คลอดเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมาค่ะ ตอนนี้ถือว่าอาการดีขึ้นจากที่เคยได้แอดมิดบ่อยๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ ถ้าถามว่าแอบกลัวไหม กลัวตั้งแต่วันที่โดนแอดมิดค่ะ อยู่ดีๆ ความดันก็ขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ผ่านมาเราก็ทำทุกอย่างปกติเพียงแค่ตัวบวมขึ้น แต่มันก็คือเรื่องปกติของคนท้องอยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่อันตรายหรืออะไร แต่พอเดินทางมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอก็สั่งให้แอดมิดเลย ยอมรับค่ะว่าตอนนั้นตกใจมาก เพราะตั้งใจแค่มาหาคุณหมอปกติ แต่คุณหมอกลับบอกว่าไม่ให้กลับบ้านแล้ว เนื่องจากว่าสถานการณ์ตอนนั้นอันตรายมากลูกอาจจะไม่ได้อยู่กับเราอีกและแม่ก็อาจจะเสียชีวิตเลยก็ได้ เพราะอาการที่เกิดขึ้นตอนนั้นมันอาจทำให้เส้นสมองแตกได้ด้วย”
ฝ้าย กล่าวว่า “ตอนแรกที่คุณหมอสันนิษฐานก็คาดว่าน่าจะเป็นอาการของครรภ์เป็นพิษ เพราะตอนท้องอันดาก็เป็นมาแล้ว และพอมาท้องนี้มันก็เลยเกิดขึ้นซ้ำ เพียงแต่มีความดันเพิ่มขึ้น แต่ก็โชคดีค่ะที่เราอยู่ในความดูแลของคุณหมอมาตั้งแต่แรก จนมาถึงช่วง 8 เดือน ความดันขึ้นสูงมาก แต่มันไม่มีอาการมึนหัวหรืออาการใดๆ เลยนะคะ แค่คุณหมอบอกว่ามันอันตรายอาจทำให้ช็อกได้เลยต้องให้แอดมิดก่อน”
เพราะเหตุผลนี้เลยทำให้เราตัดสินใจผ่าคลอดก่อนกำหนดเลยใช่ไหม ฝ้าย กล่าวว่า “อยากให้ไวที่สุดค่ะ จริงๆ แล้วกำหนดคลอด คือ วันที่ 14 พฤศจิกายน แต่เราอยู่ที่โรงพยาบาลนานแล้ว พอตรวจว่าลูกแข็งแรงก็อยากให้รีบออกมา วินาทีนั้นมันลุ้นทุกๆ ชั่วโมงจริงๆ ก่อนหน้านี้ ฝ้ายจะไปๆ กลับๆ โรงพยาบาลและบ้านตลอด”
หนุ่ม กล่าวว่า “ผมก็เครียดครับ เพราะถ้าใครรู้ภาวะที่เขาเป็น มันคือเรื่องใหญ่ มันเป็นเรื่องของชีวิตเลยครับ ตอนนั้นตัวผมเองก็ทำงานไม่ค่อยได้ สติจะไม่ค่อยมี ต้องรีบกลับมาดูแลภรรยาก่อน ถามว่าผมกลัวไหมตอนนั้นก็กลัวนะครับ แต่ผมต้องให้กำลังใจภรรยาก่อน”
สุขภาพร่างกายของน้องตอนนี้ถือว่าแข็งแรงดีแล้วใช่ไหม ฝ้าย กล่าวว่า “สุขภาพแข็งแรงดีค่ะ คุณพยาบาลบอกว่าก่อนหน้านี้น้องสำลักเลือดในครรภ์เยอะ ภาวะตอนที่ตั้งครรภ์ฝ้ายทานยา เบบี้ แอสไพลินเยอะ เพราะฝ้ายต้องกินเพื่อขยายหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไหลเลี้ยงลงไปสู่ตัวเด็กแล้วทำให้เด็กเติบโต”
หนุ่ม กล่าวว่า “อันตรายของตัวยานี้มันคอยสลายลิ่มเลือด เมื่อได้กินเข้าไปแล้ว แล้วเรามีแผลหรือปล่อยให้เลือดไหล เลือดมันก็จะไหลไม่หยุด ถ้าหากใครคิดจะกินต้องระวังนะครับ แต่ถ้าถามถึงอนาคตมันก็จะไม่ได้ส่งผลอะไรถึงตัวน้อง เพราะเท่าที่คุยกับคุณหมอมันจะมีแค่จังหวะช่วงแรกที่เขาต้องปรับตัว แต่ก็ถือว่าตอนนี้มันผ่านไปได้ด้วยดีแล้วครับ”
แล้วสำหรับตัวคุณคุณแม่เองตอนนี้สุขภาพเป็นยังไงบ้าง ฝ้าย กล่าวว่า “ตอนนี้กำลังรักษาเรื่องความดันอยู่ค่ะเพราะว่าเพิ่งจะเข้าได้แค่ 2 วันเอง แต่เมื่อวานความดันก็ลดลงมานิดนึง แต่มันก็ยังอันตรายอยู่ซึ่งคุณหมอก็ได้ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด คือว่าก่อนหน้านี้ตอนระหว่างที่แอดมิด คุณหมอไม่ให้เดินเลยค่ะ คุณหมอจะให้นอนอยู่บนเตียง งดอาหารที่มีรสชาติใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าฝ้ายตอนนั้นบวมมากเลยค่ะ มันเหมือนลูกโป่งที่มันตึงแล้วกดไม่ลง”
หนุ่ม กล่าวว่า “ภาพที่ผมเห็นตอนนั้นผมก็เครียดนะครับ ในหัวคิดอยู่ตลอดเวลาหรือว่าจะทำยังไงต่อไปดี แต่สุดท้ายผมก็เชื่อใจหมอว่าคงดูแลได้อย่างดีที่สุดและคงไม่เกิดเรื่องร้ายๆ อะไรขึ้น แต่ถ้าถามว่าผมเครียดไหมแน่นอนครับผมก็ต้องเครียดอยู่แล้ว ความดันเขาสูงขนาดนั้นมันพร้อมตายด้วยตลอดเวลา”
นอกจากเรื่องความดันแล้วยังมีอะไรที่ต้องระวังอีกไหม ฝ้าย กล่าวว่า “หลังจากที่คลอดออกมาแล้วก็ลงไปนิดนึงค่ะ เพราะอย่างน้อยลูกก็ปลอดภัยแล้ว ส่วนตัวแม่ก็ต้องดูแลเรื่องความดันต่อไปซึ่งไม่รู้ว่ามันจะหายหรือจะต้องเป็นต่อไปอีกเรื่อยๆ”
วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าลูกรู้สึกอย่างไรบ้าง
หนุ่ม “ดีใจมากครับ”
ฝ้าย “ตอนที่นอนอยู่แล้วคุณหมอบอกว่า ถ้าหากความดันมันขึ้นสูงมากให้สลบไปเลยนะ(เสียงสั่น) ตอนนั้นกลัวตายมากค่ะ (น้ำตาไหล) กลัวว่าถ้าหลับไปแล้วหายไปเลยล่ะ”
ตอนนี้ก็ถือว่าโล่งแล้วใช่ไหมเพราะว่าแข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก
หนุ่ม “ถือว่าดีครับ น้องก็แข็งแรงเป็นปกติเลยได้เข้าตู้อบเพื่อปรับอุณหภูมิอยู่แป๊บนึง แต่คุณหมอก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติหรือร้ายแรงจนเกิดอันตราย เพราะว่าทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของคุณหมอที่ดูแลได้ดี”
น้องอันดาได้เจอน้องอดัมแล้วเป็นยังไงบ้าง
หนุ่ม “กระโดดเลยครับ ยิ้มดีใจเพราะเขารอเจอน้องมาตั้ง 9 เดือน เขาพยายามจะเข้าไปจับเข้าไปเล่นกับน้องด้วย แต่คือเขายังเล่นไม่เป็น แต่ว่าตอนนี้เริ่มรู้แล้วมีขออุ้มบ้าง ส่วนเรื่องน้ำหนักแรกคลอด คือ 2,984 กรัม”
จะมีแพลนเรื่องน้องคนที่ 3 เลยไหม
หนุ่ม “พอแล้วครับ ถามว่าอยากมีไหม ใครๆ ก็คงอยากจะมีลูกเยอะๆ แต่สำหรับครอบครัวผมมันลำบากแล้วยิ่งต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่าไม่อยากให้มีอีก แต่ว่าตอนนี้ฝ้ายทำหมันเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าผ่าคลอดคุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำเลยทีเดียว ส่วนตัวผมคุณหมอก็บอกให้ทำครับ ก็ตั้งใจว่าจะทำกันทั้งคู่เลยเพียงแต่ว่าผมก็ต้องรอเวลา”
ชื่อจริงของน้องได้ตั้งแล้วหรือยัง
หนุ่ม “เรียบร้อยแล้วครับน้องชื่อว่า ‘ธนพิสิฐ’ คุณตาเป็นคนดูให้ ซึ่งความหมายก็คือ คนที่ร่ำรวยความสุข ส่วนชื่อเล่น น้องอดัม หลายคนถามว่าหน้าตาแบบนี้ทำไมถึงตั้งชื่อลูกเหมือนฝรั่ง จริงๆ ชื่อนี้น้องอันดาเป็นคนตั้งให้ครับ ตอนแรกเขาจะตั้งให้ว่า น้องโอลาฟ ซึ่งผมก็พยายามแล้ว และก็ได้ชื่ออดัมนี่แหละครับ ผมคิดว่าเขาน่าจะเอามาจากการ์ตูนที่เขาชอบดู”
ในฐานะที่เราเป็นลูกพ่อหลวง และเราเองก็เป็นพ่อคน เราตั้งใจจะน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาบอกลูกยังไงบ้าง
หนุ่ม “ผมเคยคิดไว้เล่นๆ นะครับ หากทั้งคู่เริ่มรู้เรื่องเมื่อไหร่ ผมก็จะเล่าคำสอนของในหลวงวันละข้อให้ลูกได้ฟัง”
เห็นว่าเราเองก็เคยมีความประทับใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพากย์เสียง บทพระราชนิพนธ์พระมหาชนก
หนุ่ม “ผมเคยทำหนังสั้นเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงเมื่อปีที่แล้ว 2 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องเจ้าชายป้อม และอีกเรื่องหนึ่งคือ บ้านของบุญเหม็น ซึ่งผมก็เคยได้พากย์เสียงเป็นพระมหาชนกในการ์ตูนแอนิเมชั่น ถือว่าเป็นบุญในชีวิตผมมากครับ”