เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี ลงพื้นที่ ซอยคลองห้าตะวันออก 2/1 (ซอยสุขศิริ) หรือชาวบ้านรู้จักในชื่อซอยไส้แตกซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมคลอง 5 ไปยังคลอง 6 ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หลังได้รับการร้องเรียนถึงความปลอดภัยและความลำบากจากการดำเนินการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมวางท่อระบายน้ำ ซอยสุขศิริ ระยะทาง 1,140 เมตร
โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้รับเรื่องร้องเรียนถึงถนนเส้นดังกล่าวที่กำลังก่อสร้างอยู่ซึ่งเป็นงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และได้ดำเนินการมานานแล้วนั้น ซึ่งได้สร้างความลำบากให้กับประชาชนจำนวนมากที่พักอาศัยอยู่บริเวณภายในซอย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเข้าออกที่พักอาศัยซึ่งพอเจอกับฝนที่ตกทำให้พื้นที่เละเป็นดินโคลน อีกทั้งยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากในจุดที่กำลังก่อสร้าง ไม่ได้มีไฟสัญญาณและแสงสว่างที่เกี่ยวกับความปลอดภัยที่ชัดเจน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายรายร่วมถึงมีรถยนต์ตกถนน และรถ มอเตอร์ไซค์ตกท่อระบายน้ำที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามามากมาย ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีไม่นิ่งนอนใจ จะได้ทำการเรียกผู้รับเหมาเข้ามาพูดคุย เพื่อหาทางแก้ปัญหาให้กับประชาชน และในช่วงเช้าได้มีการประชุมทางกองช่างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ก็ได้รับรายงานว่า รถบดถนนที่ทำงานก่อสร้างภายในซอยสุขศิริ ก็ถูกมือดีเผาได้รับความเสียหาย ตนเองมันใจเหตุการณ์การเผารถบดถนนในครั้งนี้ ไม่น่าเกี่ยวโยงเรื่องการเมือง แต่น่าจะเกิดจากการได้รับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่มากกว่า
ด้าน นายสมบูรณ์ สังข์เนตร อายุ 48 ปี ผู้จัดการบริษัทกฤตรัตน์การช่างที่รับเหมา เปิดเผยว่า การเผารถบดถนนที่ทำงานในซอยสุขศิริ ครั้งนี้น่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมวางท่อระบายน้ำ เนื่องจากมีการก่อสร้างมาหลายเดือนแล้วประกอบกับมีฝนตกลงมาทำให้ ผู้สัญจร หรือ ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนมาก จึงทำให้มีการการเผารถบด ตนเองคิดว่า ที่เค้าทำแบบนี้น่าจะเป็นการเตือนหรือ แสดงความไม่พอใจ ถ้าหากประสงค์จะเผารถบดจริงๆ ไม่น่าจะเกิดความเสียหายเพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุแล้ว ตนเองได้นำรถบดที่ถูกเผาไปซ่อมแซมและตรวจเช็คระบบไฟฟ้าของรถแล้วเพื่อนำรถมาใช้ในการทำถนนต่อไป