เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 : นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมด้วย นายปริญญา เชาวลิตถวิล ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง,นางสาวศุภร คุ้มวงศ์ รองผู้อำนวยการ สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร และผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ร่วมในพิธีเปิด โครงการรู้ก่อนผิด คิดก่อนหลงทาง โดยมี นางสุพิชฌาย์ รีรักษ์ ผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง บรรยายพิเศษ เรื่องกฎหมายใกล้ตัว ณ โรงเรียนสามเสนนอก เขตดินแดง สังกัดกรุงเทพมหานคร
นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า ในสังคมยุคปัจจุบันมีความเจริญก้าวทางเทคโนโลยีการสื่อสาร และมีความซับซ้อน เทคโนโลยีมีผลดีในการช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ประหยัด และสามารถเชื่อมโยงสังคมโลกรับรู้ข่าวสารถึงกันอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางประโยน์ที่มีมากมายแต่อีกมุมหนึ่งก็สร้างปัญหาให้กับสังคม เด็กและเยาวชนในหลายๆ ด้าน ด้วยความอ่อนเยาว์ต่อโลกทำให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อ กระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างปกติสุข สร้างปัญหาให้กับครอบครัว รวมทั้งก่อให้เกิดปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต
จากปัญหาที่เกิดขึ้นศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจึงมีนโยบายที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนให้รู้เท่าทันและสามารถปรับตัวอยู่ได้ในสังคมท่ามกลางสิ่งที่ล่อแหลมมีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดของเด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติจึงจัดให้มีโครงการ “รู้ก่อนผิด คิดก่อนหลงทาง” เพื่อเผยแพร่ความรู้ ให้คำแนะนำด้านกฎหมาย ความรู้ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะเรื่องกฎหมายใกล้ตัวเพื่อช่วยป้องกันให้เด็กและเยาวชน เอาตัวรอดจากภัยสังคม และปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเด็กและเยาวชน รวมทั้งครอบครัว
นอกจากนี้ทางศาลฯ ยังได้ประสานกับทางโรงเรียนร่วมกันส่งเสริมค่านิยมที่ดีงามและพฤติกรรมที่เหมาะสมกับวัย พร้อมทั้งสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคมไทย ปลูกฝังค่านิยมและทัศนคติที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เป็นพลเมืองดี รู้จักหน้าที่ ให้ความเคารพต่อผู้อื่น ไม่ยุ่งกับยาเสพติด สิ่งอบายมุขทั้งหลาย ฯลฯ ซึ่งนักเรียนชั้นมัธยมต้นคือกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการปลูกฝังสิ่งต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเข้าสู่วัยรุ่นมักจะให้ความสำคัญกับเพื่อนและเป็นช่วงของการแสวงหาสิ่งใหม่ หากเด็กและเยาวชนมีทัศนคติที่ดี มีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งก็จะสามารถเลือกเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้องมีคุณธรรม รู้จักหลีกเลี่ยงภัยที่เข้ามาใกล้ตัวได้ สังคมไทยก็จะเป็นสังคมที่มีคุณภาพ มีคนเก่งและดี เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความเจริญเติบโตทัดเทียมกับนานาประเทศได้
อนึ่ง โครงการรู้ก่อนผิด คิดก่อนหลงทาง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ร่วมมือประสานงานให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่เยาวชนและส่งเสริมทักษะวิชาชีพเพื่อสานฝัน และปลูกฝังเยาวชนให้เป็นคนของสังคม 4 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ดังนี้ โรงเรียนสามเสนนอก โรงเรียนเสนานิคม โรงเรียนสายไหมและโรงเรียนเคหะทุ่งสองห้องวิทยา1
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รานงาน