วันที่ 17 มิ.ย. 65 หลังจากมาตารการการเปิดเมืองเริ่มขึ้น สิ่งหนึ่งที่ทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล ต้องเร่งประสานความร่วมมือกับภาคประชาชน โดยเฉพาะ 2 สิ่งหลักๆที่ต้องเร่งปราบปรามกวาดล้าง คือปัญหาเรื่องของยาเสพติดที่เล็ดลอดเข้ามาจากพื้นที่ต่างประเทศ และปัญหาการลักลอบเข้าในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ทั้งเรื่องกลุ่มแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนมา และชาวโรฮิงญา แอบแฝงเข้ามาได้หลากหลายวิธี ทั้งมีคนนำพาเข้ามาได้ อาจจะเชื่อมโยงในเครือข่ายค้ามนุษย์ หรือแม้กระทั้ง ถูกนำมาทิ้งไว้ตามแนวเขตตะเข็บชายแดนทั้งทางบก และทางทะเล ร่วมทั้งล่าสุด 59 คน ที่เป็นบุคคลคล้ายลักษณะชาวเมียนมา จึงต้องเร่งเดินหน้าสร้างเครือข่ายตาสับปะรด สร้างชาวบ้าน ชาวประมง ช่วยสอดส่องดูเรือที่ผิดปกติ เข้ามาในฝั่งไทย หรือจังหวัดสตูล
พ.อ.กฤศ ศรีเดชาสินธุ์ รองผู้อำนวยการสำนัก สำนักประสานภารกิจรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด มนฑนทหารบกที่ 42 (รอง ผอ.สน.ปรมน.มทบ.42) / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล ฝ่ายทหาร (รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ต. (ท.)) ได้ให้การต้องรับ พลตรี กัญจน์ณัฏฐ์ เพ็ชรแสง เลขานุการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เนื่องในโอกาสตรวจเยี่ยมผลการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล ลงพื้นที่ ทางทะเล ออกลาดตระเวนตามเกาะแก่งในพื้นที่ใกล้แนวตะเข็บชายแดน ประเทศมาเลเซีย เพื่อดูระยะทางน้ำ เก็บข้อมูลเพื่อนำไปประชุมหารือทางหน่วยงานภายใน ในการป้องกันปัญหาต่างๆทั้งเรื่องของยาเสพติด และเรื่องของแรงงานหลบหนีเข้าประเทศต่อไป และจากนั้น เดินทางไปเยี่ยมชมการแก้ไขปัญหายาเสพติด ขององค์การบริหารส่วนตำบลปูยู อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
พลตรี กัญจน์ณัฏฐ์ เพ็ชรแสง เลขานุการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กล่าว่า สำหรับปัญหาเรื่องชาวโรฮิงญา ที่มักพบว่าจังหวัดสตูลเป็นหนึ่งเส้นทางผ่าน ทางทะเล จึงได้ประสานให้ทางรอง ผอ.รมน.จังหวัดสตูลสร้างมวลชนที่เป็นชาวบ้าน และทำงานร่วมกับทางภาคชาวบ้าน เพราะเป็นหนึ่งในโครงสร้างการทำงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ป้องกันเครือข่าย ค้ามนุษย์อาจจะเกิดขึ้นภายในจังหวัดสตูลได้
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล