ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ชาวนาจังหวัดลพบุรีระทมหนักขายข้าวได้ตันละ 5 พันบาท ยังถูกหักค่ารถ-ค่าชั่งน้ำหนักจากโรงสี เหลือเงินเพียงตันละ 4,500 – 4,600 บาทเท่านั้น
วันที่3 พ.ย.59 สำหรับในช่วงนี้ถือเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีของจังหวัดลพบุรีในทุ่งอำเภอบ้านหมี่ และอำเภอท่าวุ้ง มีจำนวนนามากกว่า 100,000 แสน ส่วนใหญ่จะปลุกข้าวหอมปทุม และข้าวพันธุ์ชัยนาท1 แต่ราคาที่ชาวนานำไปขายกับมีราคาตกต่ำมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยในวันนี้ราคาข้าวเปลือกที่ไม่รวมความชื้นของข้าวอยู่ที่ตันละ 5,000 บาท หรือกิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้นเอง แต่ชาวนายังต้องถูกหักค่ารถเข็นข้าวไปขายอีกกิโลกรัมละ 2 บาท ค่าตาชั่งข้าวอีกกิโลกรัมละ 2-3 บาท ซึ่งจะทำให้ชาวนาจะได้รับเงินจากการขายข้าวจริงแค่เพียงตันละ 4,500-4,600 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งทำให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนและขาดทุนหนักมาก แต่ก็ต้องจำใจขายเพราะชาวนาภาคกลางส่วนใหญ่ไม่มียุ้งฉางรวมถึงลานตากข้าวที่จะสามารถตากข้าวให้แห้งและเก็บใส่ยุ้งฉางเหมือนในอดีต ทำให้ขณะนี้ชาวนาเป็นหนี้เพิ่มสูงขึ้นมาอีก หลัง 2 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาภัยแล้งทำนาไม่ได้ พอทำนาได้ก็ราคาตกต่ำ ซ้ำมาอีก
นายสมนึก ขลิบเงิน ชาวนา:ในอำเภอบ้านหมี่ เปิดเผยว่า ตนทำนาจำนวน 50 ไร่ เพิ่งเกี่ยวข้าวเสร็จเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ขายได้ราคา 6,000 บาท แต่หัก ค่าชั่ง ค่ารถ เหลือเงินประมาณ 5,000 บาท ซึ่งถือว่าเสมอตัว เพราะตนมีรถเกี่ยวเอง มีรถไถนาเอง ในราคานี้ถือว่าเสมอตัว แต่ชาวนาคนอื่นที่ต้องเสียค่าเช่า ค่าไถ ค่าเกี่ยวและในวันนี้ราคาข้าวตกเหลือตันละ 5,000 บาท ทำให้ชาวนาขาดทุนเพิ่มหนี้สูงขึ้นไปอีก จึงอยากขอให้รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือเพราะชาวนาอีกจำนวนมากกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวหากราคาขนาดนี้ชาวนาหลายคนอาจต้องฆ่าตัวตายจากราคาข้าวกับหนี้ที่เพิ่มขึ้น
ใจรัก ลิ้มนุสนธิ์ ข่าว/ภาพ ลพบุรี รายงาน