เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2565 เวลา 16.40 น. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 (ม.ห.1) ได้ทำการตรวจยึดเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ ขณะเข้าทำการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมูทางทิศตะวันตก บ้านสามขา ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ต่อเนื่องท้ายหมู่บ้านดอนม่วงพัฒนา ตำบลโพนทราย อำเภอเมืองมุกดาหา ร จังหวัดมุกดาหาร พร้อมยึดของกลางเป็น รถแบคโฮ จำนวน 1 คัน รถเกรด 1 คัน รถบด จำนวน 1 คัน ของ หจก.เอกชนแห่งหนึ่ง ในขณะเข้ามาทำถนนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้
จากการตรวจสอบทราบว่า การทำถนนดังกล่าวเป็นโครงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร ก่อสร้างถนนลูกรัง สายบ้านดอนม่วงพัฒนา ต.โพนทราย ถึง บ้านนาคำน้อย ต.คำป่าหลาย ระยะทาง 575 เมตร วงเงินก่อสร้าง 498,500 บาท ผู้รับจ้าง หจก.แห่งหนึ่ง โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้พร้อมพวก ได้เข้าตรวจสอบและทำการตรวจยึดภายหลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ส่วนผู้ต้องหา/คนงาน พากันวิ่งหลบหนีเข้าป่า
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมของ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฯ เข้าตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู เพิ่มเติมออกไปอีกประมาณ 1,500 เมตร กว้างประมาณ 8 เมตร เป็นลักษณะการเปิดทางใหม่ไม่ใช่การซ่อมแซมเส้นทางเดิม มีการโค่นล้มต้นไม้อีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการอายัด/ตรวจยึด พร้อมแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.คำป่าหลาย และนำไม้ของกลางมาไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่า ม.ห. 1 ต.คำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร
ซึ่งการเปิดทางใหม่พร้อมการโค่นล้มต้นไม้ในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู ไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานไหน แต่บริเวณใกล้เคียงพบมีรถแบคโฮ จำนวน 1 คัน รถเกรด 1 คัน รถน้ำ 1 คัน รถบด 1 คัน ซึ่งที่เครื่องจักรกลติดป้ายชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งจอดอยู่ จึงเป็นที่แปลกใจว่ารถของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งนี้ มาจอดอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู ได้อย่างไร หรือว่าเป็นที่จอดรถแห่งใหม่ของ องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งนี้หรืออย่างไร
ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมปรากฏว่า ท่านผู้มีอำนาจวาสนาใหญ่โต โทรเข้ามาสอบถามว่าเรื่องเป็นอย่างไร ทั้งที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทำงานอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา เป็นการปกป้องผืนป่าไม่ให้มีการบุกรุกป่า เพื่อสร้างแหล่งอาหาร เป็นต้นน้ำตามฤดูกาลให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวบ้านว่าพื้นที่ป่าไม้แห่งนี้เป็นที่หาอยู่หากินกันทั้งปี โดยเฉพาะหน้าฝนชาวบ้านหาของป่าเก็บกินกันทั้งปี แต่กลับมีหน่วยงานที่เห็นแก่ตัวเข้ามาทำลายโดยที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง เป็นเจ้าหน้าที่รัฐทำผิดเสียเอง อ้างไม่รู้กฎหมายก็คงไม่ใช่ จากการกระทำที่พบเห็นอยากสอบถามผู้รู้ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในกรณีการเปิดทางใหม่โค่นล้มต้นไม้ทำลายป่ามหาศาลที่ล้มระเนระนาด ปลูกอีก 50 ปี ยังไม่สามารถทดแทนได้เลย และมูลค่าความเสียหายหน่วยงานไหนจะเป็นผู้รับผิดชอบ
รายงานจากมุกดาหาร