คุณชนาภา สดใส่ อายุ 46 ปี เกษตรกรชาวสิงห์บุรี อยู่บ้านเลขที่ 35/4 หมู่ 8 ตำบลบ้านจ่า อำเภอบ้านจ่า จังหวัดสิงห์บุรี ปกติมีอาชีพหลักคือทำนา ทำไร่อ้อย ระหว่างรอการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากนาข้าวและไร่อ้อย ก็ได้ทำการเลี้ยงหนูพุกเป็นอาชีพเสริม โดยคุณชนาภา เล่าว่า เดิมก่อนหน้านี้นอกจากการทำนาและทำไร่อ้อยแล้วเธอมีอาชีพอีกอย่างหนึ่งคือคือเป็นแม่ค้าขายหมู ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ราคาหมูแพงคนซื้อหมูกันน้อย ทำให้เธอต้องเลิกขายหมู และมาเลี้ยงหนูพุก เพื่อเป็นการฆ่าเวลา โดยหนูพุกที่เลี้ยงก็ไปซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจากฟาร์มเลี้ยงหนูในจังหวัดสิงห์บุรีแห่งหนึ่ง เริ่มเลี้ยงมาเป็นเวลากว่า 1 ปี โดยเลี้ยงในรองปูสามชั้นมีผาปิดจำนวน 43 ชุดรองปูน
อาหารที่ใช้เลี้ยงหนูก็จะเป็นข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวจากนาข้าวที่ปลูกไว้ และก็ปลูกหญ้าเนเปียซึ่งเป็นหญ้าตระกูลอ้อยซึ่งหนูจะชอบกิน นอกจากนี้ก็ยังเก็บผลไม้ตามฤดูการจากแปลงเกษตรผสมผสานจำนวนกว่า 4 ไร่ที่ทำไว้มาให้หนูกิน
ส่วนตลาดและการจำหน่ายก็จะมีประชาชนมาซื้อถึงที่บ้าน หากประชาชนซื้อแล้วไปทำเองก็จะจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 120 บาท แต่ถ้าให้ทำให้ด้วยก็จะจำหน่ายในราคา ขายปลีกกิโลกรัมละ 170 บาท ขายส่งให้ร้านค้ากิโลกรัมละ 150 บาท ขนาดของหนูพุกที่จำหน่ายก็ประมาณ 3 ตัว 1 กิโลกรัม รายได้เฉลี่ยสัปดาห์ละ 500 – 1,000 บาท
ในการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรของคุณชนาภา สดใส่ เธอแบ่งพื้นที่ในการทำนาข้าวจำนวน 30 ไร่ พื้นที่ทำไร่อ้อยจำนวน 15 ไร่ และแบ่งพื้นที่จำนวน 4 ไร่สำหรับยกล่องเลี้ยงปลาและปลูกผลไม้ตามฤดูการ การเลี้ยงหนูพุกเป็นอาชีพเสริมก็ทำให้เธอมีรายได้ทุกสัปดาห์หรือทุกวันก็ว่าได้
กชกร พวยไพบูลย์
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสิงห์บุรี