วันนี้ 1 มิ.ย,2565 ที่มัสยิดนูริลฮูดา ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล ชาวบ้านที่รับทำอาหารให้ผู้ป่วยโควิด19 จำนวน 30 ราย ที่กักตัวภายในบ้าน ท้องที่ รพ.สต.ทุ่งนุ้ย กับ รพ.สต.ควนบ่อทอง ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล 12 หมู่บ้าน เดือดร้อนจาก รพ.ควนกาหลง ค้างเบิกค่าใช้จ่ายล่าช้ารวม 3 ล้านบาท ล่วงเลยมานานถึง 10 เดือนแล้ว โดยวันนี้นายอารีย์ ยูฮันนัน นายกอบต.ทุ่งนุ้ย ,กำนันตำบลทุ่งนุ้ย,ผู้ใหญ่บ้านรับเรื่องร้องทุกข์พร้อมทำหนังสือทวงถามและแจ้งถึง นายอำเภอควนกาหลง,ผู้ว่าราชการจังหวัดด ให้ประสานทวงถามเหตุที่ล่าช้า เพราะชาวบ้านที่เป็นจิตอาสารับทำอาหารเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่ผู้ประกอบการเงินที่ใช้หมุนเวียนซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารก็หยิบยืมเงินมาจากญาติพี่น้อง เพื่อมาปรุงอาหารจนตอนนี้เวลาผ่านมาหลายเดือนก็ยังได้คำตอบว่าเอกสารไม่พร้อม และโยนไปมา
นางสาวเกศราภรณ์ นวลน้อย อายุ 32 ม.4 ชาวบ้านที่รับทำอาหาร กล่าวว่า 10 เดือนแล้วที่เงินลงไปช่วยเหลือทำอาหารให้ผู้ป่วย 500,000 บาท ทวงถามก็บอกให้รอๆ แล้วจะให้รออีกเมื่อไหร่ เงินที่หยิบยืมมาก็ถึงเวลาคืนแล้ว ญาติเขาก็จะใช้เงินเพราะเราก็ไม่มีเงินเยอะมาสำรองมากมายขนาดนี้
ด้านนายหมาดเรน ล่าโยค กำนันตำบลทุ่งนุ้ย บอกว่า ชาวบ้านที่อาสามาทำอาหารไม่ใช่ผู้ประกอบ เป็นชาวบ้านในพื้นที่ที่มีใจมาช่วยไม่มีเงินถุงมาสำรองในการรอเบิกค่าใช้จ่ายที่นานขนาดนี้ คนรับรู้ปัญหานี้ดีและเห็นว่าควรจะพูดคุยให้ชัดเจน และกำหนดวันเวลาให้ชาวบ้านได้รู้ปัญหาและวันเบิกจ่าย นายอารีย์ ยูฮันนัน นายกอบต.ทุ่งนุ้ย เสนอให้ทางรพ.จัดหาเงินสำรองมาเบิกจ่ายให้ชาวบ้านที่้ดือดร้อนก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน อีกทั้งพบว่าชาวบ้านมีข้อกังวลว่า หลังมีการมีการประกาศให้โรคโควิดเป็นโรคประจำถิ่นจะทำให้เงินที่พวกตนลงไปไม่ได้รับคืน
ด้านนายวินัย ปานดำ รองผอ.โรงพยาบาลควนกาหลง พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางมาชี้แจงและพบปะกับชาวบ้านพร้อมยอมรับและขอโทษที่จัดทำเอกสารล่าช้าโดยยืนยันว่าวันนี้สามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 150,000 บาท สำหรับบุคคลที่จะส่งเอกสารครบถ้วนถูกต้อง โดยได้รับการปฏิเสธจากชาวบ้านโดยยืนยันว่าต้องการรับเงินเต็มจำนวน จากนั้นนางสาวพรรณี เพชรบุรี ปลัดอาวุโสอำเภอควนกาหลง ตัวแทนนายอำเภอ ได้เดินทางมาเข้าร่วมรับฟังพร้อมรับหนังสือร้องเรียนผ่านกำนันตำบลทุ่งนุ้ยพร้อมได้บทสรุปจากการทวงถามในครั้งนี้โดยทางรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลควนกาหลงได้ชี้แจงว่าหลังจากพูดคุยกับชาวบ้าน หลังจากนี้ จะเรียกกำลังเสริมจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมาช่วยตรวจสอบในเรื่องของเอกสาร ที่เป็นปัญหาของความล่าช้าในการเบิกจ่าย โดยคาดว่าจะใช้เวลาร่วม 30 วันที่จะสามารถเคลียร์เงินให้ได้ พร้อมยืนยันว่าทุกคนจะได้รับเงินอย่างแน่นอน โดยปัญหาพบว่าเป็นเรื่องของรายชื่อที่ผิดและกรอกตัวเลขผิดจึงทำให้เกิดความล่าช้า โดยวันนี้ก็ได้เตรียมเงินจำนวน 150,000 บาทให้สำหรับคนที่เอกสารครบถ้วนสามารถเบิกรับค่าใช้จ่ายได้ในทันที
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล