วันที่ 1 พ.ย. ที่แอ็กซ์สตูดิโอ จ.ปทุมธานี โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังได้ร่วมแสดงเป็นส่วนหนึ่งของละครแห่งปี “เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์”
โดย โตโน่ เผยว่า “วันนี้เป็นซีนใหญ่ครับ เป็นสิ่งสำคัญของ เราเกิดในรัชกาลที่ 9 เดอะซีรีส์ เป็นซีนที่ทุกคนต้องมารวมกัน ส่วนในพาร์ทของผมเมื่อวานได้ถ่ายไปแล้ว ซึ่งผมเล่นเป็นเด็กแว้น เป็นคนที่มีความเข้าใจว่าคนไทยรักในหลวงเพราะในหลวงเป็นพระมหากษัตริย์ คือเข้าใจอยู่แค่นั้น แต่ไม่ได้รู้จริงว่าคนไทยไม่ได้คิดแบบนั้น แต่คนไทยรักท่านเพราะท่านได้ทำอะไรให้คนไทยทั้งแผ่นดินบ้าง ซึ่งผมต้องเล่นเป็นคนๆ นั้น คนที่ยังไม่เข้าใจในตอนที่ในหลวงยังอยู่กับคนไทยทุกคน จนเกิดเรื่องราวมากมายในชีวิต ทำให้ผมต้องติดคุก และผมก็ได้รับฟังข่าวในหลวงเสด็จสวรรคตจากในนั้น
พอออกมาผมจึงได้ย้อนกลับไปดูพระราชกรณียกิจต่างๆ ของท่าน ซึ่งทำให้ผมได้รู้ ได้เข้าใจว่า ทำไมคนไทยทั้งประเทศถึงต้องร้องไห้ ผมคิดว่าผมคงเป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ ที่ไม่เคยรู้ว่าในหลวงทำอะไรเพื่อคนไทยบ้าง ผมรู้แค่ผิวเผินรักเพราะพ่อแม่ปู่ย่าตายายรัก แต่ไม่เคยได้ตั้งใจฟังท่านพูด ไม่เคยได้อ่านหรือศึกษาอย่างจริงจัง จนวันที่เราเสียใจเราถึงได้รู้ว่าทำไมคนไทยหรือแม้แต่คนทั้งโลกเสียใจ เสียดายที่เสียคนๆ นี้”
ตอนที่รู้ว่าจะต้องมาเล่นละครเรื่องนี้รู้สึกยังไง “ภูมิใจครับ ไม่ได้ภูมิใจแค่ตัวของผมเอง แต่ผมได้เห็นทีมงานทุกคนที่มาด้วยใจ เมื่อวานเราถ่ายตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงตีสาม ซีนที่ผมถ่าย ผมต้องถ่ายตากแดดเช้าถึงเย็น ถึงแม้จะแสบผิว แต่ผมเห็นผู้กำกับ ผมเห็นช่างไฟ ผมเห็นตากล้องก็ตากแดดเหมือนกันกับผม ทุกคนก็ไม่ได้เงิน ทุกคนมาด้วยใจ ผมภูมิใจมากครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้”
อยากให้เล่าถึงข้อความที่โพสต์ลงใน ig กับคุณแม่ เกี่ยวกับละครเรื่องนี้ “ใช่ครับ ผมแทบจะไม่ต้องคิดเลย และเรื่องเงินก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยด้วย มันเป็นเรื่องของความรัก มันเป็นเรื่องของใจ อะไรที่เราทำแล้ว เรารู้สึกว่ามันสามารถทำให้ท่านยิ้มได้หรือมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นในหน้าที่ของตัวเอง หรืออะไรที่เราพอจะช่วยเหลือสังคมได้ ไม่ได้เกี่ยวกับที่เราเป็นดารา คือต่อให้เราเป็นคนที่อยู่ในคุก ผมว่าเราทุกคนก็ต้องร้องไห้ในวันที่รู้ข่าวเรื่องการสูญเสียพระองค์ท่าน”
เราคิดว่าประชาชนจะได้รับรู้อะไรเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับละครเทิดพระเกียรติเรื่องนี้ “ด้วยความที่ละครเรื่องนี้เป็นการรวมตัวนักแสดงหลายร้อยชีวิต ผมจึงไม่สามารถบอกได้ว่าตอนอื่นๆ จะเป็นแบบไหน แต่ในเรื่องของผมมันจะสะท้อนให้เห็นว่า การมีโซเชียลเป็นอะไรที่ง่ายมากสำหรับการหาข้อมูลของใครสักคน ซึ่งในหลวงท่าน นอกจากจะทำเพื่อบ้านเมืองแล้ว ท่านยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทุกคนอีกด้วย เวลาที่ท้อในการทำความดี เวลาที่เหนื่อยหรือคนที่ยังไม่รู้จักพระองค์ดีพอ รวมถึงตัวผมด้วย ผมคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้ก็คงเป็นตัวกระตุ้นและสะท้อนให้เด็กรุ่นใหม่ไม่ลืมรากเหง้า ไม่ลืมความเป็นมาของชาติบ้านเมือง ผมเชื่อว่านับจากนี้ต่อไปคนไทยจะรักกันมากขึ้นและจะภูมิใจในความเป็นไทยมากขึ้น ทุกอาชีพทุกหน้าที่จะทำทุกอย่างเต็มที่ในหน้าที่ของตัวเอง”
เห็นว่าล่าสุด เราไปที่สนามหลวงไปทำกิจกรรมจิตอาสาด้วย “ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันเรียกว่าอะไร แต่ที่ผมไปก็เพราะผมรู้สึกว่าอยากอยู่ใกล้ท่าน ผมเพียงแค่หาข้ออ้างที่จะทำอะไรก็ได้เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน ตอนที่ผมทำ ผมก็ไม่ได้บอกใคร ขนาดในไอจีผมยังไม่โพสต์ลงเลย แต่เอาจริงๆ ผมคิดว่าถ้าหากเราคิดจะทำเพื่อพระองค์ท่าน ก็ไม่ได้หมายความว่าจำเป็นจะต้องไปที่สนามหลวงอย่างเดียว เราสามารถทำความดีที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นข่าว แต่อะไรก็ตาม ที่ทำแล้วเราคิดว่าสามารถทำให้พระองค์ท่านยิ้ม พระองค์ท่านชื่นใจ หรือทำให้แผ่นดินไทยของเราน่าอยู่ขึ้น ผมคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องช่วยกันครับ”
“ผมยอมรับว่าวันแรกที่ทราบข่าว ตอนนั้นผมอยู่วัดพระแก้ว แถวสนามหลวงกำลังถ่ายละครอยู่ ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังงงๆ กับข่าวที่ออกมา ตั้งแต่วันที่ 12 ซึ่งต่อมาก็มีข่าวออกมาว่ายังไม่ใช่ แต่มันก็ยังมีข่าวออกมาเรื่อยๆ ในช่วงบ่ายของวันที่ 13 ตุลาคม ตอนนั้นสมาธิของผู้กำกับและนักแสดงทุกคนใจจดใจจ่ออยู่กับข่าวๆ นั้น จนถึงช่วงเวลา 6 โมงเย็น เราเห็นท้องสนามหลวงว่างไม่มีรถสักคันเราจึงเริ่มแปลกใจ จนพอมีประกาศออกมา เราก็ยังเดินหน้าถ่ายทำละครต่อไปอยู่ แต่ตอนนั้นในหัวของผมมันเบลอไปหมด ผมทำอะไรไม่ถูก ผมก็กลับมามองย้อนที่ตัวเองว่าผมดีพอแล้วหรือยัง ผมทำอะไรบ้างและพระองค์ทำอะไรบ้าง ผมก็ได้แต่หวังนะครับว่าพระองค์จะมองเห็น”
เราจะน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่าน มาใช้ในชีวิตอย่างไรบ้าง “คำสอนของพระองค์ท่าน มีอยู่เยอะมากเลยครับ หลักๆ เลยก็คือให้เราเป็นคนดีและนึกถึงส่วนรวม ซึ่งผมก็คงจะใช้แกนหลักนี้ที่พระองค์ท่านคงอยากให้ทุกคนเป็นสิ่งนั้น ก็คืออยากให้ทุกคนรักกัน อยากให้ทุกคนกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด ผมจะทำตามคำสอนของพระองค์เท่าที่ผมจะทำได้ เท่าที่ผมจะมีแรง และผมเชื่อว่าไม่ใช่มีแค่ผมหรอกครับ ทุกๆ คนก็อยากจะเป็นคนที่ดีขึ้น การจากไปของพระองค์ในครั้งนี้ ผมคิดว่าพระองค์ไม่ได้จากเราไปไหนนะครับ สิ่งที่พระองค์ทำให้กับพวกเราจะชัดเจนมากขึ้นในใจของพวกเราทุกคน แล้วพวกเราทุกคนคงอยากจะตอบแทนพระองค์ ไม่ทำให้ 70 ปี ที่พระองค์ทรงสร้างต้องสูญเปล่า ผมเชื่อว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่คนไทยทุกคนได้สำนึกว่า ไม่ต้องมีใครขี่ม้าขาวมาช่วยประเทศให้เจริญหรือน่าอยู่ขึ้น แต่จะเป็นการปลุกให้คนไทยสำนึกในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แล้วทุกคนก็จะกลายเป็นพระเอก จากนั้นประเทศไทยของเราก็จะน่าอยู่เองครับ”