(23 พ.ค.65)นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดตรวจสอบและรวบรวมพยานคดีหมายเลขดำที่ อท 22/2563 นายสุรศักดิ์ เพียรเวช จำเลย ที่ 1 นายชัชวาล อภิบาลศรี จำเลยที่ 2 นายวัชระ เพชรทอง โจทก์ คดีนี้ศาลมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา และมีคำสั่งให้รวมพิจารณาระหว่าง คดีหมายเลขดำที่ อท 22/2563 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 23/2563 วันนี้
ทนายจําเลยทั้งสองมาศาล
โจทก์ ขอยื่นบัญชีพยานโจทก์ชั้นสืบพยาน รวม 86 อันดับ และประสงค์จะนำพยานบุคคลเข้าสืบพยานบุคคลจำนวน 10 ปาก ตามบัญชีพยานโจทก์ ซึ่งพยานปากโจทก์อ้างตนเองเป็นพยาน พยานปากนางนารีนาถ เหตานุรักษ์ และ พยานปากนางสาวชมนภัส อนุอัน พยานทั้งสามปากเคยเบิกความในขั้นไต่สวนมูลฟ้อง และขอตรวจสอบ พยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่งและทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลว่า ยอมรับหรือโต้แย้งพยานหลักฐานดังกล่าว โดยจะยื่นคำแถลงต่อศาลก่อนวันนัดไม่น้อยกว่า 7 วัน
ด้านจําเลยทั้งสองได้ขอยื่นบัญชีระบุพยานรวม 40 อันดับ พร้อมจะนำพยานบุคคลเข้าไต่สวนในชั้นพิจารณา จำนวน 11 ปาก และขอตรวจสอบพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่งและทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลว่ายอมรับหรือโต้แย้งพยานหลักฐานดังกล่าว โดยจะยื่นคำแถลง ต่อศาลก่อนวันนัดไม่น้อยกว่า 7 วัน
คดีนี้นายวัชระ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานแจ้งความเท็จและประพฤติมิชอบ อันเป็นความผิดประมวลกฎหมายอาญาม. 157 และ 172
สำหรับพยานฝ่ายจำเลยที่น่าสนใจคือ น.ส.สิริธร ลิมปะพยอม ผอ.สำนักรายงานการประชุมฯ นายณัฐวัชร์ มังคละคุปต์ ผบ.กลุ่มงานพัฒนาระบบ นายนัฑ ผาสุข อดีตเลขาฯสนง.เลขาฯวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นางอศยา วังวล ผบ.กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป นางอารยะหญิง จอมพลาพล ผอ.สำนักบริหารงานกลาง และนายจักรพันธ์ จันทรเจริญ ผอ.สำนักกฎหมาย
คดีนี้นายวัชระ โจทก์ได้บรรยายคำฟ้องว่า นายสรศักดิ์ จำเลย เป็นหัวหน้าส่วนราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารราชการของสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามกฎหมาย มีอำนาจสั่งการอนุญาต และอนุมัติ และกระทำการแทนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และยังได้รับการแต่งตั้งจากประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้เป็นคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จำเลยซึ่งเป็นผู้ครอบครองเอกสารและได้รับหมายเรียกพยานเอกสารของศาลอาญา คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.838/2561 ระหว่างนายชัชวาล อภิบาลศรี โจทก์ และนายวัชระ เพชรทอง จำเลย ให้เร่งรัดส่งเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของจำเลย ไปยังศาลอาญา เพื่อใช้ในการพิจารณาคดี แต่นายสรศักดิ์ได้บังอาจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา แจ้งว่าไม่สามารถจัดส่งให้ได้ เนื่องจากไม่มีแถบบันทึกเสียงการประชุมของคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ถือว่าเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เพราะความจริงแล้วในการประชุมของคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ได้มีการบันทึกชวเลข แถบเสียง และบันทึกการประชุม โดยมีรายละเอียดผู้เข้าประชุม ผู้ไม่ได้เข้าประชุม วันเดือนปี ครั้งที่และข้อความที่ประชุม ซึ่งเป็นเอกสารราชการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 จำเลยซึ่งเป็นกรรมการและผู้เข้าร่วมการประชุม เป็นผู้ครอบครองเอกสารดังกล่าว และทราบดีว่าต้องมีการบันทึกชวเลข แถบเสียง หรือรายงานชวเลข และบันทึกการประชุมไว้และต้องเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือนายชัชวาล อภิบาลศรี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่